Tuesday, March 1, 2011

My Food Recipe

แกงหน่อไม้แบบลาวเด้อค่า




ขั่นแรก กะต้มน้ำยานาง+หน่อไม้+เนื้อไก่ตามด้วย น้ำปลาแดก น้ำปลา ชูรส ตะไคร้หั่น บักพริกดิบ
นำกันก่อนต้มสักพัก กะใส่ผักลงไปตามชอบ
บ่อว่าสิเป็น บักเขือ บักอึ เห็ด มักผักใด๋ กะใส่ๆ ชะอม ฝักทอง ลงไปโลด
ใส่ข้าวเบือ เพิ่มความเข้มข้น
ข้าว เบือ:คือข้าวสารเหนียวนำมาแช่น้ำจั๊กหน่อย แล้วกะนำมาตำให้ละเอียด เทน้ำแล้วคนให้เข้ากัน ก่อนเทลงในอาหาร จะเพิ่มความเข้มข้น ความนัวของอาหาร)รอให้ผักสุกหรือบางคนชอบแบบเปื่อยๆ กะต้มไปเรื่อยๆ
ตักใส่ถ้วย พร้อมเสริฟแล้ว
____________________________

ยำหมูยอ"


"ส่วนผสมยำหมูยอ"

หมูยอ
หัวหอมใหญ่
มะเขือเทศ
คึ่นช่าย
พริกขี้หนู
มะนาว
น้ำปลา
น้ำกระเทียมดอง
น้ำตาลทราย
น้ำมะขามเปียก
ผงชูรส

ส่วนประกอบต่างๆ สามารถปรับได้ตามต้องการ)วิธีทำ หั่นหมูยอเป็นชิ้นขนาดพอคำ เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำน้ำเปล่าใส่หม้อ รอจนน้ำเดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำหมูยอที่หั่นไว้ลงไปลวกประมาณ 2 นาที จากนั้นก็เทน้ำที่ลวกทิ้งไปให้หมด นำเครื่องปรุงต่างๆ คือ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกขี้หนู น้ำกระเทียมดอง น้ำมะขามเปียก มาผสมรวมกันในถ้วยผสม ชิมรสตามชอบ ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่ คึ่นช่าย
มะเขือเทศ แล้วนำผักต่างๆ ไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำหัวหอมใหญ่มาซอยบางๆ ไปใส่ลงในชามผสมรวมกับหมูยอที่ลวกไว้แล้ว เทน้ำยำที่ปรุงรสไว้ลงไป คลุกเคล้าเครื่องทั้งหมดให้เข้ากัน จัดใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอมเอาไว้ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลย
__________________________________

น้ำพริกหนุ่ม



พริก หนุ่ม คือพริกสดที่ยังไม่แก่จัด น้ำพริกหนุ่ม เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะข้น เป็นอาหารพื้นบ้านล้านนาที่รู้จักกันทั่วไป มีจำหน่ายแพร่หลายแก่นักท่องเที่ยว นิยมซื้อเป็นของฝาก รับประทานกับแคบหมู บางสูตรใส่ปลาร้าสับ และกะปิห่อใบตองย่างไฟ บางสูตรใส่น้ำปลากับเกลือ แล้วแต่ชอบ(เสาวภา ศักยพันธ์ และยุพยง วิจิตรศิลป์, 2538,

1. พริกหนุ่มย่างไฟ 5 เม็ด
2. หอมแดงย่างไฟ 5 หัว
3. กระเทียมย่างไฟ 8 กลีบ
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. ผักชีซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. ต้นหอมซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ



1. แค
2. ถั่วฝักยาว
3. กระถิน
4. มะเขือเปราะ
5. มะเขือยาว

1. ย่างพริก กระเทียม และหอมแดง แกะเปลือกออก
2. โขลกส่วนผสมและเกลือ รวมกันให้ละเอียด
3. โรยหน้าน้ำพริกด้วยผักชีต้นหอม


ย่างส่วนผสมกับถ่านไม้ น้ำพริกจะมีกลิ่นหอม และรสชาติดี ถ้าไม่ชอบเผ็ด ให้เอาไส้พริกออกบ้าง จะช่วยให้เผ็ดลดลง
_______________________________

แกงเปรอะ










เครื่อง แกงก็มี พริกสด 15 เม็ด พริกแห้ง 20 เม็ด ตะไคร้ 3 ต้น หอมแดง 7 หัว กระเทียม 2 กลีบ ข่า 1 แว่น เล็ก ๆ เกลือป่น 1/2 ช้อนชา กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ ตำรวมกันไม่ต้องละเอียดมากนะคะ จากนั้นเตรียมน้ำย่านาง ครูใช่ข้าวสาร (ทางภาคอิสานจะเรียกว่า "ข้าวเบือ ") แช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ สักพัก ตำกับใบย่านางพอแหลก บางท่านจะตำข้าวเบือใส่ต่างหากน้ำแกงจะข้นมากน้อง ๆ ราดหน้าเลยทีเดียว ก็ แล้วแต่ชอบค่ะ สำหรับครูชอบแบบข้นกลาง ๆ จึงใช่วิธีนี้ ตำได้ที่นำมาคั้นเอาแต่น้ำ ใส่หม้อตั้งไฟ ละลายเครื่องแกงพอเดือด ใส่หน่อไม้ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน วันนี้ได้ข้าวโพดแก่มาแทนก็ใช้ได้ค่ะ พอเริ่มสุกก็ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า อันนี้ยิ่งขาดไม่ได้สำหรับครูแอ๊ดใส่เสีย สามกระบวย กลิ่นงี้โชยคับบ้านขึ้นมาเลยชิมดูถ้าไม่เค็มก็ใส่น้ำปลาเพิ่มได้จากนั้น ก็ใส่ยอดฟักทอง ตามด้วยชะอม แค่พอเค้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มก็โรยหน้าด้วยใบแมงลักยกจากเตาได้เลย บางท่านจะชอบโรยลูกโดด (พริกสดที่เป็นเม็ด) ลงไปด้วย แต่สูตรเครื่องแกงของครูแอ๊ดสูตรนี้รสเข้มจัดจ้านแล้วค่ะไม่ต้องใส่ก็ได้ รับรองอร่อยไม่เหลือ.......

___________________________________________

แกงหน่อไม้ใบย่านาง


หน่อไม้รวกเผา
5 หน่อ (300 กรัม)

ใบย่านาง
20 ใบ (115 กรัม)

เห็ดฟางฝ่าครึ่ง
½ ถ้วย (100 กรัม)

ชะอมเด็ดสั้น
½ ถ้วย (50 กรัม)

ฟักทองหั่นชิ้นพอคำ
½ ถ้วย (50 กรัม)

ข้าวโพดข้าวเหนียวฝานเอาแต่เมล็ด
½ ถ้วย (50 กรัม)

แมงลักเด็ดเป็นใบ
½ ถ้วย (50 กรัม)

ตะไคร้ทุบหั่นท่อน
2 ต้น (60 กรัม)

น้ำปลาร้า
3 ช้อนโต๊ะ (48 กรัม)

น้ำ
3–4 ถ้วย (300–400 กรัม)

กระชายทุบ
¼ ถ้วย (10 กรัม)

พริกขี้หนู
10 เม็ด (10 กรัม)

ข้าวเบือ
1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)

น้ำปลา
2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)


1. โขลกข้าวเบือให้ละเอียด
2. ปอกเปลือกหน่อไม้ ตัดส่วนแก่ทิ้ง ตัดเป็นท่อนยาว 2 นิ้ว ต้มน้ำทิ้ง 2-3 ครั้ง ให้หายขื่น
3. โขลกใบย่านาง แล้วนำไปคั้นกับน้ำ ให้น้ำใบย่านางออก กรองใส่หม้อ
4. นำหม้อที่ใส่น้ำใบย่านางยกขึ้นตั้งไฟ ใส่หน่อไม้พอเดือดใส่กระชาย พริกขี้หนู ตะไคร้ ข้าวเบือ น้ำปลาร้า น้ำปลา ต้มสักครู่ ใส่ฟักทอง เห็ดฟาง ข้าวโพด เมื่อทุกอย่างสุกทั่วกันดี ใส่ชะอม ใบแมงลัก ยกหม้อลง
หมายเหตุ ข้าวเบือ คือ ข้าวเหนียวแช่น้ำประมาณ 20 นาทีขึ้นไป
_________________________________

ขนมกล้วยแขก


๑. กล้วยสุกน้ำหว้าพอเหลือง
๒. แป้งข้าวจ้าว แป้งสาลี
๓. น้ำตาลทราย
๔. น้ำตาลปีบ
๕. เกลือป่น น้ำมันพืช งาดำ
๖. มะพร้าวแก่ขูดไม่ต้องคั่นน้ำออกเอาทั้งหมด
๗..ไข่ไก่ไม่กำหนด

ขั้นตอน / วิธีทำ
๑. เตรียมปลอกกล้วย
๒. เวลาทอดจึงหั่นกล้วย ลูกหนึ่ง ๓ – ๔ ชิ้น
๓. แป้งข้าวจ้าว ๒ ส่วน
๔. แป้งสาลี่ ๑ ส่วน
๕. มะพร้าวขูด น้ำตาลปีบ น้ำตาลทรายพอหวาน
๖. เกลือ งาดำ ไข่ไก่ พอประมาณ
๗. คลุกเคล้าให้เข้ากัน
๘. เติมน้ำเปล่าลงพอแป้งเหนียว
๙. แป้งเหนียวติดกล้วยเวลาชุบแป้งทอด
๑๐. ตั้งกระทะใส่นำมันพืชตั้งไฟให้เดือด
๑๑. หั่นกล้วย ๓ – ๔ ชิ้น ชุบแป้งทอด
๑๒. สุก รับทานได้เลย
เทคนิคในการทำ (เคล็ดลับ)
เน้นมะพร้าวขูดแก่คลุก
____________________________

ลิ้นย่าง, หวงนมย่าง,



เครื่องปรุง
เนื้อสันคอหมูย่าง , ลิ้นย่าง ,หวงนมย่าง
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
เหล้า 1 ช้อนโต๊ะ


น้ำจิ้ม
น้ำมะขามเปียกต้มสุก 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1 หัว
ต้นหอม ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
พริกป่น 1 ช้อนชา
ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. สันคอหมูแล่เป็นชิ้นสำหรับย่าง หวงนมย่าง ลิ้นย่าง
2. ผสมน้ำตาลปี๊บ ซอสหอยนางรม พริกไทยป่น เกลือ เหล้า เข้าด้วยกัน ลองแตะลิ้นชิมดู อย่าให้เค็มหรือหวานมากจนเกินไป
3. นำหมูที่แล่ไว้มาเคล้านวดเล็กน้อย เพื่อให้ส่วนผสมเข้าเนื้อหมูหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
4. นำไปย่างไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนสุกเหลือง นำมาหั่นเป็นชิ้นบางพอคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
5. น้ำจิ้ม ผสมน้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา น้ำมะขามต้มสุก เข้าด้วยกัน ลองชิมดูให้ได้รสเค็ม เปรี้ยว หวาน (เผื่อรสเปรี้ยวไว้หน่อยเพราะจะต้องใส่น้ำมะนาวอีก) ใส่พริกป่น ข้าวคั่วคนให้เข้ากัน ใส่หอมแดงซอย ต้นหอม ผักชีฝรั่งซอยคนให้เข้ากันเสิร์ฟพร้อมคอหมูย่าง
_______________________________

No comments: