สาวไทยในรัฐอริโซน่าล่องหน What happened to Jamie Laiaddee?

โดยสยามมีเดีย  กรกฎาคม 2553 “เจมี่ จีน ละเอียดดี” สาวไทยวัย 32 ปีในเมือง แชนเดอะเลอร์ รัฐอริโซน่า สูง 5 ฟุต 4 นิ้ว น้ำหนัก 130 ปอนด์ ได้หายตัวไปอย่างไม่มีรองรอยจากอาร์พาตเม็นต์ที่อาศัยอยู่ราวกลางเดือน มีนาคมปีนี้ จนบันนี้ยังไม่มีใครพบตัว เพื่อนๆตั้งกลุ่ม “ช่วยตามหา เจมี่” โดยกระจายออกข่าวไปตามแฟสบุ๊ค และสื่อต่างๆเช่น ซีเอ็นเอ็น Latest news on CBS, December 29, 2012 Bryan Stewart, her boyfriend, was convicted and is now Inmate 268586 and is known to his jailers as Rick Wayne Valentini. His sentence for murder and fraud: 54 years. He is appealing his conviction. สยามมีเดียได้รับข่าวจากทนายความสตรี รสริน ปัทมคันธิน ส่งข่าวทางอีเม็ลว่า ได้มีสุภาพสตรีสาวไทยได้สูญหายไปจากอพาร์เม็นต์ซึ่งเป็นที่พักของเธอในเมือง แชนเดอะเลอร์ มลรัฐอริโซน่า และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สงสัยว่าแฟนหนุ่มชาวอเมริกันจะมีส่วนในการล่องหนของ สาวไทย ทนายความรสริน กล่าวว่าอยากจะให้สื่อได้กระจายข่าวในชุมชนไทย ซึ่งอาจจะมีคนไทยที่รู้จักหรือทราบเบาะแส เช่นเดียวกับที่ ซีเอ็นเอ็น ได้ออกข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปของ เจมี่ ละเอียดดี ร่วมทั้งการนำเสนอข่าวของสื่อท้องถิ่นในเมืองแชนเดอะเลอร์ นอกจากนั้นเพื่อนๆสนิท 6 คนของ เจมี่ ที่เป็นเพื่อนเรียนในมหาวิทยาลัย ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ มิชิแกนมาตั้งแต่ปีคศ.1995 และได้สำเร็จการศึกษาเมื่อปี 1999  ได้รวมกันตั้งกลุ่ม “ช่วยตามหาเจมี่” ซึ่งเชื่อว่า เจมี่ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2010 กลุ่มเพือนๆของเจมี่ ในสมัยที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยได้รวมตัวกันเรียกตัวเองว่า “กลุ่มผู้หญิง 516”  โดยกลุ่มผู้หญิงเหล่านี้อาศัยอยู่ในบ้านพัก 7 ห้องนอนในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย และบ้านหลังนี้ตั้งอยู่เลขที่ 516 ถนนวอลนัท  ในระหว่างการศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย กลุ่มเพื่อนสนิททั้งเจ็ดคนได้มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก เพราะต่างก็จากบ้านมาเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยเดียวกัน โดยเจมี่ ซึ่งเติบโตในรัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นบุคคลที่อยู่ห่างไกลจากบ้านมากที่สุด กลุ่มเพื่อนสนิทของ เจมี่ จะอาศัยอยู่ด้วยกัน เรียนด้วยกัน หยุดพักผ่อนด้วยกันทำงานด้วยกัน ทำให้กลุ่มนี้มีความสนิทสนมจนถึงขั้นพึ่งพาแลกเปลี่ยนความเข้าใจ ความรักและความเสียใจด้วยกันนอกเหนือจากนั้น ยังได้มีการเอื้ออาทร แบ่งปันกันเองในระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิท แม้นว่าจะเรียนจบไปแล้วก็ยังติดต่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน กลุ่มเพื่อนสนิทของ เจมี่ กล่าวว่า ได้เริ่มประกาศประชาสัมพันธ์ทางเฟสบุค เมื่อต้นมิถุนายน (ซึ่งหมายความว่า เจมี่ ได้หายตัวไปแล้วเป็นเวลานานกว่า สิบอาทิตย์โดยไม่มีใครสังเกตุเห็น) กลุ่มเพื่อนสนิทของเจมี่ กล่าวว่า บุคคลสุดท้ายที่เห็น เจมี่คือแฟนของเจมี่ ชื่อ “ไปรแอน สจ๊วต” ในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๐๑๐ และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายไปรแอน สจ๊วต ได้ใช้ชื่อปลอมในระยะ ๘ปีที่ผ่านมา ส่วนชื่อจริงของ นายไปรแอน คือนาย ริค เวนน์ วาเวนตินี ซึ่งขณะนี้ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหาย ของ เจมี่  ตำรวจได้ตามจับตัวนาย ริค ได้ที่เมืองสก๊อตเด็ล รับอาริโซน่า พร้อมกับ รถยนต์ และบัตรเครดิต ของ เจมี่ ตำรวจได้ยังคุมขัง นายริค ไว้แต่ในข้อหาอื่น และตำรวจพยายามที่จะค้นหาข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับนายริค สำหรับนายริค ได้เป็นแฟนกับ เจมี่ มาเป็นเวลากว่า ๓ ปี สำหรับกลุ่มเพื่อนสนิทของเจมี่ ทั้ง๖คนคือ “อพาร์ต้า” อยู่ในเมือง ทรอย รัฐมิชิแกน “แคทารีน” อยู่ในเมืองมอสโค ประเทศรัสเซีย “เกทเฮน” อยู่ในเมืองอาร์ริงตัน รัฐเวอร์จิเนีย “จีวีเน็ท” อาศํยอยู่ในเมืองแคนเบอร์ร่า ประเทศออสเตเลีย  “เจนนีเฟอร์” อยู่ในเมืองโคเบอร์ ประเทศเยรมัน “ชีล่า” อยู่ในเมืองฮุสตัน รัฐเท๊กซัส กล่าวว่าการติดต่อกันระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิทได้ใช้อีเม็ล และเฟสบุค เป็น “สื่อ”  และได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากแฟนๆที่ใช้เฟสบุคในรัฐเท็กซัส เวอร์จิเนีย มิชิแกน และเท็กซัส กลุ่มเพื่อนสนิทของ เจมี่กล่าวว่า แม้นว่าในขณะนี้ การตามหา เจมี่ จะได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากประชาชนทั่วไป และจากการทำหน้าที่อย่างเข็มแข็งของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองแชนเดอะเลอร์ แต่เราก็ต้องทำงานให้ก้าวหน้าต่อไป ตราบใดที่เรายังไม่ได้พบตัวของ เจมี่ กลุ่มเพื่อนสนิทของเจมี่ กล่าวต่อไปว่า เจมี่เป็นคนที่รักและซื่อตรงกับเพื่อน แต่ในเวลาเดียวกัน เจมี่ก็จะไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวให้เพื่อนๆรับรู้ และกลุ่มเพื่อนสนิทของเจมี่ ก็ยังไม่เคยไปเยือมเจมี่ ที่บ้านพักในรัฐอริโซน่า ทำให้ไม่สามารถที่จะทราบความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเจมี่ และไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่ เจมี่ให้การติดต่ออยู่ในสังคมที่เจมี่ ทำงานอยู่ในเมืองที่เจมี่พัก และกลุ่มเพื่อนสนิทของเจมี่ เชื่อว่า ก่อนที่เจมี่จะหายตัวไปปอย่างลึกลับนั้น เจมี่ มีชีวิตอยู่อย่างเดียวดาย ทำให้กลุ่มเพื่อนมีความรู้สึกว่า เจมี่ ต้องการพวกเขา หากท่านใดทราบเบาะแสของเจมี่ จีน ละเอียดดี โปรดติดต่อตำตรวจเมืองแชนเดอะเลอร์ 480-782-4130 หรือโทร 480-WITNESS "The Stranger Beside Me," which airs at 10 p.m. tonight on CBS "48 Hours Mystery," takes a look at a young Arizona woman who disappears, baffling everyone. Her name is Jamie Laiaddee, a University of Michigan graduate from California, who moved to Phoenix after graduation to take a high paying job in medical sales. Laiaddee is "private person," says CBS News reporter Erin Moriarty, and does not have a lot of friends. She also has an intriguing family relationship. She is a first generation American; her parents are from the Thailand. And the first chance she gets, Laiaddee moves far away from her home in Pasadena, California, to attend the University of Michigan. She does not share a lot about her family life to those she meets at Michigan or later in Phoenix. "She wanted to clearly get away from home," says Moriarty, adding that her parents culture and American culture caused some conflicts. "She had distanced herself from her parents." At some point after she lands a job in Phoenix, she attends a local U-M university alumni group, and falls for a handsome young member named Bryan Stewart. The couple dates for a year and live together for two, Moriarty says. "What a sad story...she did everything right. She didn't go online meet guys," Moriarty said. "She met a guy at the University of Michigan alum club in Phoenix. What what could be safer then that? She trusted him." But then, Jamie goes missing in March of 2010. When people started asking questions, Stewart brushed them off. And she was "somewhat estranged from her family." "She was a very loved person, yet she was missing for 10 weeks before anyone called the police," Moriarty said. While searching for her, detectives find evidence that Bryan had been lying to Jamie, and police, about who he is. Bryan is actually Rick Wayne Valentini. He changed his identity illegally, and moved from Michigan to Phoenix to "start over." One day before Thanksgiving 2011, more than a year-and-a half after Jamie Laiaddee disappeared, the prosecution and defense rested after presenting two very different stories. It was now up to the jury to decide. Foreman Leon Lead was worried. "As we were moving to deliberation -- I wondered -- how difficult of a decision this is going to be for the 12 of us -- knowing that there was no body," he said. But just four hours later, the jury returned with a verdict. Moriarty asked a group of jurors, "Did any of you look at him when you walked in?" The group replied, "No." Bryan Stewart was reassured by deputy sheriffs guarding him. "Oh, yeah, they're like, 'Yeah, you're good. Any time a jury comes back that quick...'" he told Moriarty. "And I was like, 'OK, well, wow, all right, that's pretty good.'" We the jury, duly empanelled and sworn in the above entitled action, upon our oaths, as to count one, second degree murder, do find the defendant guilty. Jamie's parents were overcome by the verdict: Guilty. "Guilty. That's all I heard, and I just -- I lost it. I was so happy," said Vunnee. And then there was more: As to count two, fraudulent schemes and artifices do find the defendant guilty. Bryan Stewart couldn't believe his ears. "I just sat there, like to me, my life was over with," he told Moriarty. "I just couldn't understand, you know? I mean, if I would have killed her, I would have admitted to it." Moriarty asked the jurors, "Do you think Bryan Stewart slash Rick Valentini is a dangerous man?" They all replied "yes." "No question in your mind?" Moriarty asked. "None at all. The first 10 minutes of his testimony...any doubt I had that he was solely responsible for the murder of Jamie, had been sealed at that moment in time," said Lead. "You've told so many stories it's hard to believe you," Moriarty told Stewart. "Let's look at the Army, OK?" he said. "No, let's look at what happened to Jamie. That's what really matters," said Moriarty. "Jamie took $100,000...And she left the state of Arizona...I've said it for 18 months. I say it now. And I'm gonna say it for the next 18 years," he said. But investigators say there was no money, and his story is just another lie. For her friends and family, the one remaining question may never be answered. "It is hard because you don't really know where she is? You've never been able to bury her," Moriarty noted to Jamie's mother. "That's right. That's right," Vunnee Laiaddee replied. "I still have what they call receiving blankets of Jamie from the hospital. And I carry it with me all the time. ...And I intend to use that blanket to carry her home...if we find her." Latest news on December 29, 2012 Bryan Stewart is now Inmate 268586 and is known to his jailers as Rick Wayne Valentini. His sentence for murder and fraud: 54 years. He is appealing his conviction.