I had an opportunity to write an 8-pages article for Kwan Reun Magazine, one of the most famous magazine in Thailand.
https://www.facebook.com/KwanruenMagazine
https://www.facebook.com/KwanruenMagazine/photos/ms.c.eJw9z9kRxDAIA9COdrhkoP~;GNgErn28kJfh0dVTKKUELfmdc7pEGNJ1r5i1royHqbRr09uP2W~_b7lZ9jci~_61nffqmulffbHaExuSffkOGOY~_nNPVX8~_b873PO7N5dq2X~_xbTj~;q2u39nyn7juln0DV9z~_uY~_02Uxubcw2YP9rH3Ke87uo4~;6WxVyg~-~-.bps.a.698948690139240.1073741870.134489993251782/698948903472552/?type=1&theater
https://www.facebook.com/KwanruenMagazine
https://www.facebook.com/KwanruenMagazine/photos/ms.c.eJw9z9kRxDAIA9COdrhkoP~;GNgErn28kJfh0dVTKKUELfmdc7pEGNJ1r5i1royHqbRr09uP2W~_b7lZ9jci~_61nffqmulffbHaExuSffkOGOY~_nNPVX8~_b873PO7N5dq2X~_xbTj~;q2u39nyn7juln0DV9z~_uY~_02Uxubcw2YP9rH3Ke87uo4~;6WxVyg~-~-.bps.a.698948690139240.1073741870.134489993251782/698948903472552/?type=1&theater
The entire layout is very vibrant with red-colored background with my name Amie Hana เอมี่ ฮานาห์ credited as the columnist.
เจาะลึกเวทีการประกวด Miss Universe 2012
by Amie Hana เอมี่
ฮานาห์
ขนาดเวทีการประกวดค่อนข้างขนาดเล็ก และบันไดทางเดินขึ้นเวทีก็สั้น แต่การตบแต่งของฉากหลังเป็นสไตล์คริสต์มาสทำได้ดีทีเดียว ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี
การประกวดเริ่มต้นด้วยการแนะนำผู้เข้าประกวด นางงามจากชาติต่างๆเดินสวนกันออกมาจากหลายทิศทาง
และเดินค่อนข้างเร็ว
ไม่มีการแนะนำตัวเองจริงๆให้กับท่านผู้ชมอย่างที่เราเคยเห็นๆกัน แต่การประกาศชื่อนางงามและประเทศของเธอนั้นมาจากเสียงอัดที่เตรียมไว้ล่วงหน้า เอมี่ว่าการจัดอย่างนี้ทำให้เสียระดับความตื่นเต้นบนเวทีไปพอสมควร นางงามหลายคนเดินผ่านหน้าเวทีเร็วๆแค่รอบเดียว และไม่หยุด
แล้วก็หายไปเลย
พอถึงเวลาการประกาศผลเข้ารอบ 16 คน เวเนซุเอลาเป็นชื่อแรกที่ถูกเรียก เธอดูท่าทางประหลาดใจอย่างฉับพลัน เอมี่และนักวิจารณ์หลายคนแน่ใจในตอนแรกว่าเธอมีสิทธิ์ได้เข้ารอบสุดท้าย เพราะเธอสวยจริงๆ หุ่นก็ดีเยี่ยม
ไม่แปลกใจเลยที่ฝรั่งเศสเข้ารอบ บุคลิกภาพของเธอดูลึกลับน่าค้นหา
เปรูก็อยู่ในรายชื่อท็อปของเอมี่เหมือนกัน ใบหน้าของเธอสวยคมดี
เอมี่ชอบรัสเซียมาก บุคลิกของเธอมีเสน่ห์แบบนิ่งๆมีระดับมาก ยังกับว่ามีเชื้อเจ้าอะไรประมาณนั้น
ส่วนเม็กซิโกมีการเสียงกระซิบมาว่าเธอเป็นหนึ่งในยอดโว็ดที่ Donald Trump ลุ้นอยู่
ไม่คิดว่าโปแลนด์จะเข้ารอบ และตัวเธอเองก็ทำท่าประหลาดใจมากเมื่อถูกเรียกชื่อ
เอมี่อดยิ้มไม่ได้เมื่อเขาประกาศเรียกฮังการี เพราะลุ้นเธออยู่เป็นการส่วนตัวอยู่เพราะเธอเป็น roommate ของน้องริด้าของเรา และค่อนข้างสนิทสนมกันดี
รายต่อไปนี้เอมี่ลุ้นมากตั้งแต่วันแรก มิสแอฟริกาใต้ เธอมีออร่าเหมือนเทพธิดาจากฟ้าสวรรค์ แทบจะเรียกได้ว่าเปอเฟก เพื่อนนักข่าวหลายคนก็ตะลึงในความงดงามของเธอ ถึงตอนนี้เอมี่มั่นใจว่าเธอจะต้องติดรอบ 5 คนสุดท้าย แต่เสียดายว่าเธอไม่ติด
มิสฟิลิปปินส์เป็นที่ชื่นชอบจากฝูงชนอย่างล้นหลาม พอเรียกชื่อเธอออกมา เสียงเชียร์จากฝูงชนกระหน่ำกึงก่องทันทีทันใด ก็พวกฟิลิปปินส์เขาแห่กันมาเชียร์เธอเป็นหลายร้อยคนทีเดียวนี้ค่ะ และดูเหมือนว่าบทบาทของเธอบนเวทีได้รับการตอบสนองมาก เธอเป็นคนที่น่าติดตามดูมากเลยทีเดียว แต่ในขณะนั้นเอมี่นึกไม่ถึงว่าเธอจะได้เป็นถึงรองนางงามในที่สุด
มิสโครเอเชียถูกเรียกว่าหลังจากมิสฟิลิปปินส์ ท่าทางเธอไม่ค่อยตื่นเต้นเมื่อเข้ารอบเท่าไร เอมี่ก็เหมือนกับอีกหลายคนที่ไม่คุ้นกับชื่อประเทศของเธอมาก่อน Croatia ก็พึ่งจะได้ยินตอนนี้แหละ
อีกคนที่เอมี่คิดว่าเข้ารอบสุดท้ายแน่ มิสบราซิล เพราะเธอมีความงามพร้อมสดุดตาจริงๆ
โคโซโวก็เข้ารอบ คนนี้สวยหวาน ดูเหมือนดาราหนังฮอลิวูด
หลายคนตื่นเต้นเมื่อออสเตรเลียถูกเรียกตัวไปร่วม Top 16 เธอเป็นคนที่มีใบหน้าสดใสแบบนางงามเสรีภาพ อะไรประมาณนั้น
เอมี่แปลกใจที่มิสอินเดียเข้ารอบ 16 ได้ข่าวว่าคะแนนอินเทอร์เน็ตโหวตของเธอค่อนข้างสูงทีเดียว เพราะมีอดีตมิสยูนิเวิร์ส Sushmita Sen จากประเทศเดียวกันหนุนหลังเชียร์อยู่
ก่อนที่จะมีการประกาศชื่อคนสุดท้ายของรอบ 16 คน ซึ่งเป็นมิสยูเอสเอ กล้องแพนไปที่จ่อที่มิสเปอร์โตริโก เธอทำหน้ายิ้มหยันๆ แบบเม้มมุมปาก เหมือนกับว่าเธอกำลังยอมชะตากรรมว่าเธอคงไม่ได้จะถูกเรียก เพราะเหลืออีกเพียงตำแหน่งเดียวเองที่จะประกาศ และความคิดของเธอก็ถูกต้องเมื่อมิสยูเอสเอถูกเรียกชื่อเป็นคนเข้ารอบคนสุดท้าย เสียงเชียร์ของฝูงชนกระหึมลั่นก้องทันที ตอนนี้สื่อไทยทุกคนใจเหี่ยวเพราะน้องริด้าไม่ได้อยู่ในนั้น เอมี่คิดว่ามันเป็นไปได้อย่างไร คนของเรามีคุณสมบัติพอที่จะได้เข้ารอบนี้ มาเลเซียที่เป็นลูกครึ่งเหมือนกันก็ไม่ได้เข้า มิสเวียดนามคนสวยก็ไม่ได้เข้า
หลังจากนัันนางงามที่เข้ารอบเบื้องต้นทั้ง 16 ก็ออกมาเดินโชว์ชุดว่ายน้ำบนเวที จากนี้ไปเราไม่เห็นน้องริด้าของเราไปอีกนานเลย
การคัดเลือก TOP 10 หลังการประกวดชุดว่ายน้ำ นางงามถูกเรียกชื่อแบบไม่เรียงลำดับคะแนน - ออสเตรเลีย, รัสเซีย, บราซิล, ฝรั่งเศส, เวเนซุเอลา, USA, ฮังการี, แอฟริกาใต้, เม็กซิโกและฟิลิปปินส์ จากนั้นก็มีการฉายคลิ็ปวีดีอาบทสัมภาษณ์นางงามที่เข้ารอบทั้ง 10 คนบนจอ projector
ระหว่างการฉายวีดีอา นางงามทั้ง 10 คนต้องรีบเปลี่ยนเป็นชุดราตรีหลังเวทีอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมตัวการประกวดขั้นต่อไป
สำหรับชุดราตรี เอมี่ขอพูดถึงแค่ 3 ชาติน่ะค่ะ
มิสยูเอสเอ ทันทีที่เธอเดินออกมาเอมี่รู้สึกว่าชุดของเธอแปลกตาไปกว่าคนอื่น เป็นชุดกำมะหยี่สีแดง ที่มีคอลึกมาก เปิดเห็นร่องอกอย่างกว้างเกือบครึ่งเต้า แถมเธอเดินสดุดด้วยตอนสักครึ่งเวที แต่เธอก็เดินต่อและส่งยิ้มให้ผู้ชมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก็เรียกเสียงเชียร์ได้ไม่น้อยหน้าใคร นักวิจารณ์หลายคนคิดว่าชุดราตรีของเธอนี้เป็นสไตล์ชนิดที่ว่า "ถ้าไม่ชอบ ก็เกลียดไปเลย" เอมี่เองคิดว่าเขาใส่ชุดอย่างอื่นคงดูดีกว่านี้ ส่วนกระโปรงของชุดดูหรุมหลามมาก ทำให้เขาดูเหมือนตัวใหญ่ไป ไม่เพรียว แต่บุคลิกการแสดงของเธอดีมาก เหมือนดาราหนังฮอลิวูดก็ว่าได้
มิสแอฟริกาใต้เหมือนตุ็กตาทองที่มีชีวิต เมื่อเธอใส่ชุดราตรีเป็นสีทองเดินขึ้นมาบนเวที ความงดงามไม่มีที่ติจริงๆ
มิสฟิลิปปินส์ใส่ชุดสีฟ้ากระโปรงจีบใบพัด นักวิจารณ์ฝรั่งหลายคนบอกว่าชุดของเธอดูดีขึ้นเมื่อเธอเริ่มกระพือกระโปรงให้เห็นถึงความโปร่งบางโชว์รูปร่างขาของเธอ แต่เขาไม่ค่อยประทับใจในการเลือกชุดของเธอเท่าไร มีสิ่งหนึ่งที่เธอทำตัวโดดเด่นไปจากนางงามคนอื่น คือการโพสท่าจีบมือซ้ายของเธอพักตรงระดับช่วงเอว แทนที่จะงอแขนท้าวสะโพกอย่างที่เห็นกันอยู่ทั่วไป อันนี้เป็นที่เตะตาคณะกรรมการและผู้ชมมาก เอมี่เองก็มองอยู่เหมือนกันว่าท่านี้ของเขาเท่ห์ดี
จากการประเมินผลของเอมี่ในตอนนั้น เวเนซุเอลา,บราซิล, ฟิลิปปินส์และออสเตรเลียคงจะได้เข้ารอบ Top 5 หยั่งใจอยู่ระหว่าง มิสยูเอสเอ กับมิสแอฟริกาใต้ ไม่ได้คิดว่ามิสยูเอสเอจะได้เป็นนางงามจักรวาล เพราะเธอเดินบนเวทีก็สะดุด และตอบคำถามก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคำตอบดีที่สุด แต่เป็นที่น่าเศร้าใจว่ามิสแอฟริกาใต้ไม่ได้เข้ารอบ Top 5 และมิสยูเอสเอก็ได้เข้ารอบไปแทน และผลสุดท้ายก็ชิงชนะเลิศเอามงกุฎไปสวม
นางงามที่ได้เข้ารอบ Top 5 คือ มิสเวเนซุเอลา, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย, อเมริกาและบราซิล ซึ่งทั้ง 5 คนจะแข่งขันกันต่อด้วยการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการ
ก่อนการตอบคำถามเอมี่และเพื่อนนักข่าวหลายคนคิดว่ามิสเวเนซุเอลาจะได้มงกุฎ แต่เมื่อหลังตอบคำถาม ความเห็นของเราเปลี่ยนไป มิสเวเนพยายามอย่างหนักเพื่อตอบเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงของเธอก็หนักและเธอก็พูดไม่ค่อยจะคล่อง ผลก็คือคำตอบของเธอก็หายเข้าป่าไปเลย ไม่ได้ใจความที่น่าประทับใจและตรงจุด น่าเสียดายที่เธอควรจะมีล่ามมาแปลให้ จากนั้นเรารู้เลยว่าเธอคงไม่ได้เข้ารอบ Top 3 อย่างแน่นอน
มิสออสเตรเลียเองก็ให้คำตอบที่ไม่ค่อยสดสวยนัก มันเป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องความอ้วน เอมี่รู้สึกสะดุดเมื่อฟังคำตอบของเธอ ว่าตราบใดที่เธอรู้สึกดีกับตัวเอง เธอไม่จำเป็นจะต้องไปทำตามการแนะนำของคนอื่นเพียงเพื่อที่จะดูดี คำตอบของเธอเหมือนดาบสองคม กรรมการและผู้ชมอาจจะรู้สึกออกมาในทางบวก หรือไม่ก็หันไปเป็นทางลบเสียเลย เธออาจจะถูกมองว่ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงโดยที่ไม่ฟังใคร และก็ไม่รู้สึกผิด เอมี่คิดว่าเธอน่าจะหาคำตอบที่ปลอดภัยกว่านี้ ให้มันเป็นกลางมากกว่านี้ เพราะสมัยนี้หลายคน sensitive กับเรื่องน้ำหนักตัวเองมาก
มิสบราซิลปิดผนึกชะตากรรมของเธอโดยสิ้นเชิงในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ คำถามที่เธอได้มาเป็นคำถามที่ถูกถามกันหลายครั้งแล้วในการแข่งขันประกวดนางงาม และถูกตอบกันมาแล้วอย่างเจ๋งๆหลายครั้ง เธอน่าจะหาคำตอบที่คมคายมากกว่านั้น เพราะนี้ถือว่าเป็นคำถามง่ายมาก แต่คำตอบที่เธอให้มาสุดแสนจะธรรมดา
ส่วนมิสฟิลิปปินส์ เอมี่เชื่อว่าในการตอบคำถามของเธอ เป็นจุดสำคัญชีัขาดที่ให้เธอได้เข้ารอบสุดท้าย จนได้ตำแหน่งรอง Miss Universe คำตอบของเธอเป็นคำตอบสากลที่ถูกต้องตามตำราทุกประการ แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเธอ สื่ออื่นๆเขียนชมว่าคำตอบของเธอดีที่สุดในบรรดานางงามทุกคน แต่เป็นเพราะเหตุผลบางประการในภาพรวมใหญ่ที่ทำให้เธอได้เป็นรองแทน แต่สำหรับชาวฟิลิปปินส์แล้ว เธอคือ Miss Universe ของพวกเขา
คำถามสำหรับมิสฟิลิปปินส์ "As an international ambassador, do you believe that speaking English should be a prerequisite to being Miss Universe? Why or why not?" "การเป็นตัวแทนระดับประเทศ, คุณเชื่อไหมว่าการพูดภาษาอังกฤษควรจะเป็นสิ่งจำเป็นในการรับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สหรือไม่? ทำไม ?"
คำตอบที่มีชื่อเสียงของเธอ: "For me, being Miss Universe is not just about knowing how to speak a specific language. It’s being able to influence and inspire other people. As long as your heart wants to serve and you have a strong mind to show to people, then you can be Miss Universe." สำหรับดิฉ้น การเป็นมิสยูนิเวิร์สไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการรู้จักพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง แต่มันเกี่ยวข้องกับความสามารถในการนำและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ตราบใดที่หัวใจของคุณต้องการที่จะให้และมีความตั้งใจแน่วแน่ คุณจะสามารถเป็นมิสยูนิเวิร์สได้ "
สำหรับคำตอบจากมิสยูเอสเอ นักวิจารณ์หลายคนคิดว่ามันไม่ได้เป็นคำตอบที่ถือว่าดีที่สุด แต่เป็นคำตอบที่ตรงๆและเรียบง่ายตามความเป็นจริง แต่ขาดเนื้อหาที่กินใจเปรียบเทียบกับคำตอบของมิสฟิลิปปินส์
คำถาม "What is something you've done and you'd never do it again?" มีอะไรไหมในชีวิตของคุณที่ทำไปแล้วไม่อยากทำอีก?
เธอตอบว่า "Every experience no matter what it is, good or bad, you'll learn from it. But something I probably would regret was picking on my siblings growing up... But I don't regret it." ทุกประสพการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี คุณควรจะเรียนรู้จากมัน อันหนึ่งที่ดิฉันทำไปแล้วรู้สึกผิดคือการรังแกน้องตอนเด็กๆ แต่ทุกคนก็ทำกัน ใช่ไหมค่ะ ว่าไปฉันไม่เสียใจแล้วหรอก
คำตอบของเธอได้รับการตอบสนองจากผู้ชมด้วยเสียงร้องเชียร์อย่างล้นหลามตั้งแต่เธอยังตอบไม่จบ ในเวลานั้น เรามีลางสังหรณ์ว่ามิสยูเอสเอมีสิทธิ์ได้มงกุฎ
หลังจากนั้นนางงามจักรวาลคนล่าสุด Leila Lopez ก็เดินออกมากอำลา ไม่แน่ใจว่าชุดสีเหลืองมีปีกสีดำตรงเอวเป็นแฟชั่นดีที่สุดสำหรับเธอในโอกาสสำคัญอย่างนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะยิ้มตลอดแต่เธอดูท่าทางเหนื่อย ชุดสีเงินที่เธอใส่ออกมาในการปรากฎตัวครั้งที่สองดูดีกว่ามาก
การประกาศผู้เข้ารอบสุดท้าย
หลังจากที่มิสฟิลิปปินส์ให้คำตอบที่หลักแหลมที่สุดและดีที่สุด ทุกคนถูกคาดหวังว่าเธอจะชนะ แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นไปอย่างนั้น การประกาศผลการอ่านชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว
FOURTH RUNNER–UP: Miss Brazil
THIRD RUNNER–UP: Miss Australia
SECOND RUNNER-UP: Miss Venezuela
FIRST RUNNER-UP: Miss Philippines
MISS UNIVERSE 2012 : MISS USA
เอมี่ขอเอาข่าวฮ็อดฉาวโฉเกี่ยวกับการประกวดมาเล่าสู่กันฟังกันสักหน่อย หลังสิ้นสุดการประกวด หนึ่งในนางงาม มิสเพนซูเวเนียได้ออกข่าวให้สัมภาษณ์ทางทีวีว่า เพื่อนนางงามคนหนึ่งในกองประกวดเล่าให้เธอฟังว่า เขาได้แอบไปเห็นรายชื่อของผู้เข้ารอบสุดท้าย 5 คนที่เขียนไว้ ก่อนการประกวดรอบแรก Top 16 อีก เธอโกรธมากและขอ Donald Trump มาอธิบายความจริงว่าการแข่งขันนี้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าใครจะชนะ
ทางกองประกวดฟ้องร้องเธอกลับ และเรียกร้องค่าเสียหาย มิสเพนซูเวเนียแพ้คดีไป และโดนปรับเป็นจำนวนเงินถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญบางคนเขียนคำวิจารณ์บนเว็ปในแง่คล้ายกัน แต่ใช้ถ้อยคำที่คลุมเครือ ไม่เป็นการกล่าวหาอย่างโจ้งแจ้งว่าการแข่งขันครั้งนี้ อเมริกาเป็นเจ้าภาพ ฉนั้นอเมริกาก็ต้องชนะ ก็ทั้งนี้ทั้งนั้นอเมริกาไม่ได้มงกุฎ Miss Universe มานานเป็นเวลา 15 ปีแล้วนี้นา บ้างก็คอมเม้นด้วยถ้อยคำถากถาง เป็นทำนองว่าอเมริกาเป็นเจ้าภาพงานประกวดทั้งที ก็ขอเอาไปกินเองดีกว่า อะไรประมาณนี้
จริงๆแล้วเรามีสิทธิ์ในการมีคำคิดเห็นของตัวเอง แต่ถ้าการเข้าใจไม่เป็นจริงโดนถ่ายทอดออกไป จะทำให้คนอื่นเสียชื่อเสียงและเดือดร้อนไปเปล่าๆ และถึงแม้ว่าคำกล่าวหานั้นเป็นจริง เราก็คงจะไม่มีทางพิสูจน์มันได้ และอีกอย่างการประกวดก็จบสิ้นกันไปแล้ว คนส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็ happy ดีกับ Olivia Culpo ที่ได้ตำแหน่ง ปีใหม่นี้ขอมีความสงบสุขดีกว่า
บทสรุป:
1 การจัดงาน Miss Universe ในปีนี้จัดในระดับค่อนข้างเล็ก การดำเนินการทุกอย่างถูกตัดขนาดลง วันการประกวดก็เลื่อนออกมาเรื่อยๆ จนกระทั้งเกือบปลายปี แต่เขาก็พยายามจัดให้งานมีรูปลักษณ์อลังการณ์ ด้วยการใช้ตีมคริสมาตส์เข้าช่วย ซึ่งก็ได้ผลดี
2 มิสยูเอสเอไม่ได้ตบมือหลังจากมิสฟิลิปปินส์ให้คำตอบที่ชาญฉลาดของเธอ
3. หลายคนยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมมิสแอฟริกาใต้ไม่ได้เข้า Top 5 และพูดกันว่าเธอน่าจะได้เข้ารอบมากกว่ามิสบราซิล แต่เราก็ไม่อยากพูดให้เป็นที่หมางใจกัน เพราะมิสบราซิลก็มีคุณสมบัติที่ดีของเธอ สรุปแล้วม้ามืดสุดโปรดที่ถูกกล่าวขวัญกันมากก่อนการประกวดครั้งสุดท้ายที่หลายคนคิดว่าจะได้เข้ารอบ แต่ไม่ได้เข้าก็มี น้องริด้า มิสไทยแลนต์ของเรา, มิสแอฟริกาใต้, มิสเปอร์โตริโก, มิสปารากวัย และมิสเนเธอร์แลนด์
4. ผู้ชมหลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าการสัมภาษณ์ไม่ใช่เป็นข้อสำคัญที่สุดในการเลือกผู้ชนะเลิศ แต่เป็นเนื่องมาจากคุณสมบัติทั่วไปที่มาจาก "คะแนนเฉลี่ย" แต่จริงๆแล้วเราก็เห็นๆกันอยู่ว่าคะแนนการสัมภาษณ์ที่ใช้ในการตัดสินเลือก Top 5 มันเป็นอย่างไร
คอนเซ็ปทั่วไปของ reality show ในการประกวดนางงามคือ การเลือก Top 16 มาจากว่าใครมีรูปร่างสรีระสวยมากกว่า และสามารถเดิน โพสท่าได้ดีกว่า และในการประกวดครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับการโวดออนไลย์ด้วย ขั้นถัดมาคือการเลือกนางงามสำหรับ Top 10 จากการประกวดชุดราตรี เสร็จแล้วก็ให้ทั้ง 10 คนตอบคำถาม ซึ่งนำมาสู่การคัดเลือก 5 คนสุดท้าย
แต่ในการแข่งขัน กองการประกวดประกาศว่าคนชนะขั้นสุดท้ายได้มาจากผลคะแนนประเมินความมีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ย หรือ overall performance ท่านผู้อ่านลองคิดดูก็แล้วกันว่านางงามแต่ละคนกว่าจะได้ติดอันดับในแต่ละครั้ง มันเหมือนการประชันดวงกันแค่ไหน น้องริด้าของเรามีคุณสมบัติไม่แพ้ชาติอื่นเลย อย่างน้อยเธอก็น่าจะเข้ารอบ Top 16 หรือเข้า Top 10
5. หลังจากการประกวดเสร็จสิ้นไป อารมณ์และความตื่นเต้นก็ค่อยๆปรับระดับให้เข้าที่ ทำให้เรามีวิจารณญาณที่ดีขึ้น ทั้งนี้และทั้งนั้น สรุปแล้วมันก็ตกลงมาที่ว่าการเลือกนี้เป็นการที่ "ชอบใครชอบมัน" กรรมการแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน มีรสนิยมต่างกัน คิดต่างกัน ถึงแม้ว่าโดย popular choice แล้วคนกลุ่มหนึ่งมั่นใจว่ามิสฟิลิปปินส์ควรจะได้ครองมงกุฎมากว่ามิสยูเอสเอ แต่คณะกรรมการคิดว่าคุณสมบัติส่วนรวมของมิสยูเอสเอมีความเหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่า และก็เป็นคุณสมบัติที่กองประกวดองค์การมิสยูนิเวิร์สเองต้องการด้วย
6. งานประกวดนี้เป็นการแข่งขันอย่างหนึ่ง จะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ ผู้ชนะก็ดีใจ ในขณะเดียวกันผู้แพ้บางคนก็ถอยไปด้วยความเจ็บปวด แต่ทุกอย่างคือการเรียนรู้ของทุกๆคน และการเรียนรู้คือสิ่งที่มีค่า ไม่ว่าจะเป็นการแพ้หรือชนะ
7. น้องริด้าไม่ใช่กลับมามือเปล่าเสียเมื่อไร เธอได้รับคะแนนโว็ตนิยมสูงสุดเป็น "ขวัญใจประชาชน" จาก Missosology ด้วย
น้องริด้าบินไปแอลเอในวันรุ่งขึ้นที่ 20 ธค พี่แจ็ดพาเธอเที่ยวทั่วแอลเอเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ พากันไปช็อปปิ้งซื้อกระเป๋ารองเท้ากันอย่างสนุกสนาน ริด้าได้เที่ยวที่ Universal Studio ด้วยและชอบมาก ทั้งสองคนได้เดินทางกลับเมืองไทยโดยสวัสดิภาพวันที่ 26 ธค
สำหรับริด้า เธอบอกว่าการประกวดครั้งนี้เหนื่อยเหมือนกัน
แต่มีความสุข...มีความสุขทุกวัน เธออายุแค่ 19 เอง
ได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนๆต่างชาติถึง 88 ชาติในเวลาเดียวกัน
ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ถึงแม้เสร็จงานกลับบ้านเราแล้ว ก็ยังมีความทรงจำที่ดีอยู่
คิดว่าอีก 50 ปีตื่นขึ้นมาก็คงยังไม่ลืมความทรงจำอันนี้
มันเป็นประสพการณ์แห่งชีวิตที่หาไม่ได้เลย
No comments:
Post a Comment