แผนการสร้างไทยทาวน์ในเขตซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย
New Thai Town in the San Francisco Bay Area
ข่าวไทยทาวน์เบย์แอเรีย ตอนที่ 3
Thai Town Bay Area News Part 3
ทำไมเราจึงเลือกเมืองวาเลโฮ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย?
Why Vallejo, California?
ความคิดที่จะก่อตั้งไทยทาวน์ในเขตแคลิฟอร์เนียภาคเหนือไม่ใช่ความคิดที่เพิ่งจะมีขึ้น คนไทยหลายกลุ่มได้คิดกันว่าควรสร้างไทยทาวน์ขึ้นที่เมืองเบิร์คเล่ย์หรือซานฟรานซิสโกมาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีไทยทาวน์เกิดขึ้นในเขตนี้
The idea of building a Thai Town in northern California is not a new one. Groups of Thai people have talked about establishing it in Berkeley or San Francisco for many years, but it never materialized.
ชาวไทยในเขตแคลิฟอร์เนียภาคเหนือเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีไทยทาวน์ตั้งขึ้น เพราะมีคนไทยเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตนี้มากขึ้นทุกปี ไทยทาวน์ควรจะมีขึ้นในแหล่งที่มีคนไทยอยู่จำนวนมาก ในขณะนี้มีไทยทาวน์อยู่เพียงแห่งเดียวคือที่ลอสแองเจลิส แต่เมื่อเริ่มมีคนไทยเพิ่มขึ้นในจำนวนที่พอสมควร ก็ควรจะมีไทยทาวน์อยู่ในหลายๆ แห่ง เช่น ในชิคาโกสำหรับคนไทยที่อยู่ในเขตมิดเวสต์ หรือที่วอชิงตันดีซีสำหรับชาวไทยที่อยู่ในฝั่งตะวันออก
Thai people in northern California agree that there should be a Thai Town because the number of Thai people in the area continues to grow in numbers every year. The concept of a Thai Town should not be limited only to Los Angeles. There should be one in Chicago to serve the Thai people in the Midwest and another located in Washington D.C. for the Thai people on the East Coast.
คำถามของชาวไทยในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือคือ “ควรจะตั้งไทยทาวน์ที่ไหนดี”
· เมืองซานฟรานซิสโกและเมืองเบิร์คเล่ย์นั้นมีที่ดินว่างน้อยมาก และราคาที่ดินแพงเกินกว่าที่จะจับซื้อได้
· เมืองซาคราเมนโต้ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นห่างไกลจากศูนย์กลางทางธุรกิจ
· เมืองซานโฮเซ่ซึ่งเป็นเมืองไฮเทคก็มีที่ดินที่ราคาสูงเกินไป และชาวเวียดนามก็ได้จับจองเป็นเจ้าของเสียส่วนใหญ่
The question for northern California is, “where should it be?”
· San Francisco and Berkeley have very little open space available and land cost is very expensive.
· Sacramento is the capital city of California, but it’s not centrally located.
· San Jose land is high-priced and the Vietnamese community is already well established there.
หลังจากที่คนไทยหลายฝ่ายได้เจรจา โต้วาที และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว คนไทยหลายคนที่ได้อาศัยอยู่ในเขตซานฟรานซิสโกเบย์แอเรียเป็นเวลานาน ได้พากันสรุปว่าเมืองวาเลโฮ่เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไทยทาวน์แห่งใหม่ คุณพิษณุ คชภูมิ (ชาวไทยรุ่นบุกเบิกที่ได้อาศัยอยู่ในอเมริกากว่า 50 ปี เคยทำงานในตำแหน่งบริหารระดับสูงในหลายเคาน์ตี้ในแคลิฟอร์เนีย) คุณอ้อย บัวไข (เจ้าของฟาร์มขนาดใหญ่ในเขตซาคราเมนโต้ที่มาอยู่ในอเมริกากว่า 40 ปี) คุณนฤวรรณ (นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตอีสเบย์ได้ 30 ปี) และคุณนิโคลัส เทอร์เล็กกี้ (สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างไฮไรซ์ในเมืองซานฟรานซิสโกมากว่า 20 ปี) ต่างลงความเห็นว่าวาเลโฮ่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด อาจารย์ใหญ่สุนันท์แห่งวัดมงคลรัตนาราม คุณวันชัยสุวรรณชื่นและอีกหลายท่านได้ออกความเห็นสนับสนุนการก่อตั้งไทยทาวน์แห่งใหม่ที่เมืองวาเลโฮ่ในการประชุมที่วัดมงคลฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา
After long discussions, investigations and careful review, many Thai people who have lived in the San Francisco Bay Area for a long time have concluded that the city of Vallejo is the perfect location for the new Thai Town. Khun Pitsanu Khotchapoom (over 50 years living in America who used to work in northern part of California, as CEO, CFO and administrator for many counties), Khun Oy Buakhai (over 40 years in the Bay Area - farm owner), Khun Naruwan (30 years in the Bay Area – real estate investor), Mr. Nicholas Terlecky (over 20 years in the Bay Area - architect) all agree that the city of Vallejo is the best location for the new Thai Town. Others that support our Thai Town Bay Area project are Khun Sunan (the principal at Wat Mongkolrattanaram in Berkeley), Khun Vanchai Suvunnachuen and many other Thais that were present at the last meeting at the Thai temple in Berkeley.
ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 เมืองวาเลโฮ่ได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อป้องกันการเป็นเมืองที่ล้มละลาย (bankruptcy protection) เนื่องจากรายจ่ายของเทศบาลมากกว่ารายรับ ทำให้เทศบาลไม่มีเงินที่จะใช้ในการประนอมหนี้กับเจ้าหนี้และสมาคมลูกจ้างแรงงานได้ สภาพเศรษฐกิจในลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นกับเมืองอื่นๆ หลายเมืองทั่วอเมริกา ผลก็คือชาวเมืองได้ย้ายออกจากเมืองวาเลโฮ่ และมีบ้านที่ถูกธนาคารยึดเป็นจำนวนมาก เพราะต่างพากันเกรงว่าเทศบาลจะไม่สามารถให้บริการต่างๆ ต่อสาธารณะได้ ทำให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์ของเมืองนี้ตกลงไปกว่า 60% จากราคาสูงสุดในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ ราคาที่ดินในเมืองวาเลโฮ่ในขณะนี้มีราคาถูกกว่าที่ดินในกรุงเทพฯ
On May 23, 2008, the city of Vallejo filed for bankruptcy protection because expenditures exceeded revenues and the city was unable to reach agreement with its primary creditors, the employee labor associations. Although these current economic conditions exist in many other cities across the nation the result in Vallejo has been that besides the normal number of foreclosures people moved out of Vallejo uncertain of the ability of the city to provide basic services. The result is that real estate in Vallejo is down more than 60% from the costs at the high point of the housing bubble. The cost of land in Vallejo, California is currently cheaper than in Bangkok.
อย่างไรก็ตาม เมืองวาเลโฮ่ก็จะยังตั้งอยู่ที่เดิม เทศบาลเมืองก็ยังจัดให้มีบริการด้านสาธารณูปโภคอยู่ต่อไป รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสาธารณะ การพัฒนาต่างๆ บริการด้านน้ำ-ไฟและการดับเพลิง การที่เทศบาลเมืองทำเรื่องล้มละลายเป็นโอกาสให้เทศบาล มีเวลาในการจัดการด้านการเงินเพื่อนำมาจ่ายให้กับเจ้าหนี้ ขณะนี้เทศบาลเมืองกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้
เมืองวาเลโฮ่ตั้งอยู่ศูนย์กลางชุมชนในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ เพียง 45 นาทีจากซานฟรานซิสโก น้อยกว่า 30 นาทีจากเมืองนาป้าศูนย์กลางผลิตไวน์ชื่อดังของโลกและ 50 นาทีจากเมืองซาคราเมนโต้ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองวาเลโฮ่คืออากาศที่ดีตลอดปี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ไม่หนาวเหมือนที่ซานฟรานซิสโก ไม่ร้อนเหมือนกับที่ซาคราเมนโต้
วาเลโฮ่ตั้งติดกับอ่าวซึ่งทำให้สะดวกกับการขนส่งสินค้าทางเรือจากเมืองไทย ไปยังท่าเรือนานาชาติโอ๊คแลนด์ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล มีโกดังเก็บสินค้ามากมายก่อนที่จะนำสินค้ากระจายออกไปยังส่วนอื่นๆ ของอเมริกา วาเลโฮ่ห่างจากสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกเพียง 42 ไมล์ (67 กิโลเมตร) ซึ่งเหมาะสำหรับการทำธุรกิจ
However, Vallejo is not going anywhere. The city continues to provide services during the bankruptcy case including police, public works, development services, water delivery and fire protection. Bankruptcy is allowing the city time to restructure its debt and negotiate payment to its creditors. The city is actively working on recovering from bankruptcy protection.
And Vallejo is still located in the center of the metropolitan northern California Area – only 45 minutes from San Francisco, less than half an hour from the world renowned Napa Valley wine country and 50 minutes from Sacramento, the capital city of California.
Another appealing aspect of Vallejo is its weather. It’s ideal for Thai people because it doesn’t get too cold or too hot. It’s not as cold as San Francisco and not as hot as Sacramento.
Vallejo’s location in the Bay Area means that merchandise shipped by container from Thailand can be sent to the nearby port of Oakland. There are plenty of inexpensive warehouses to store products in Oakland before they’re distributed to other parts of the US. Vallejo is only 42 miles (67 kilometers) from the San Francisco International Airport, making it an ideal location for business.
บางคนบอกว่าเมืองวาเลโฮ่มีอาชญากรรมและแก็งค์ต่างๆ อยู่ทั่วเมือง ถ้าดูดีๆ แล้วไม่มีเมืองไหนที่จะปลอดอาชญากรรมได้ร้อยเปอร์เช็นต์ เทศบาลเมืองวาเลโฮ่กำลังปรับปรุงสภาพเมืองให้ดีขึ้น และถ้าคนไทยเริ่มย้ายเข้าไปอยู่ และทำกิจกรรมต่างๆ ที่นั่น เทศบาลก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของเมืองก็จะดีขึ้น คนไทยที่สนับสนุนโครงการสร้างไทยทาวน์ที่วาเลโฮ่บอกว่า “ตอนนี้มันไม่ดี เราก็เข้าไปทำให้มันดีสิ” เมืองวาเล่โฮ่เป็นชัยภูมิเก่า เคยเป็นเมืองหลวงเก่า เราเชื่อว่าเมื่อชาวไทยเริ่มย้ายเข้ามาอยู่ที่วาเลโฮ่ เราจะร่วมมือกันสร้างเมืองให้น่าอยู่ และทำให้เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการศึกษา
Some people say that Vallejo is subject to crime and gangs. There are no cities that are crime free and the city of Vallejo is working very hard to improve conditions in the city. And if Thai people start to move in, if there are more businesses occupied by Thai people, the city will have more revenue and will be able to prosper economically sooner rather than later. Some of our Bay Area Thai supporters say, “Vallejo may not be good economically now. But we will go in and make it good.” We believe that if Thai people begin to move to Vallejo, we can help the city become very appealing by making it the center of Thai business, culture, tourism, and education.
ผู้เขียนขอเล่าเรื่องของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เธอชื่อคุณนฤวรรณ มาอยู่อเมริกาได้ประมาณ 30 ปีแล้ว เธอมาอเมริกาตอนอายุ 20 ต้นๆ เพื่อมาศึกษาต่อ และได้แต่งงานกับชาวอเมริกัน มีบุตรด้วนกันสองคน หลังจากแต่งงานได้สิบปีก็ได้แยกทางจากสามี เธอได้ทำงานกับหลายบริษัทที่นำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ตอนหลังเธอได้เปลี่ยนสายงานมาทำทางด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นสิ่งที่เธอชอบและถนัด เธอมีบ้านและคอนโดให้คนเช่าสามแห่งในเบย์แอเรียและมีบ้านดิน (adobe) ที่เธอได้เรียนรู้วิธีสร้างด้วยตนเองเองอยู่ในรีสอร์ทที่เมืองไทยหลายหลัง และที่ดินที่เชียงใหม่จำนวนมาก คุณนฤวรรณได้ศึกษาราคาบ้านในเขตเบย์แอเรีย และเมื่อต้นปีนี้ (2553) เธอได้ซื้อบ้านสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำให้กับตัวเองอยู่ในราคา 120,000 เหรียญในเมืองวาเลโฮ่ และมีเพื่อนคนญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อยูกิโกะ ก็ได้ไปซื้อบ้านใกล้ๆ กับคุณนฤวรรณ ยูกิโกะได้ขายบ้านราคา 700,000 เหรียญที่เมืองเบิร์คเล่ย์ แล้วมาซื้อบ้านหลังเล็กสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ใน ราคา 112,000 เหรียญ เธอชอบอยู่เมืองวาเลโฮ่มากกว่าที่เบิร์คเล่ย์ เพราะเธอมีเงินเหลือจากการขายบ้านเพื่อทำสิ่งอื่นๆ และไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถ และการจราจรที่ติดขัด คุณนฤวรรณและคุณยูกิโกะได้ถือโอกาสลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ราคาตกต่ำนี้
คุณนฤวรรณได้บอกกับผู้เขียนเกี่ยวกับเมืองวาเลโฮ่อยู่เสมอว่า เป็นเมืองที่อากาศดี น่าอยู่ และเธอหวังว่าคนไทยจะมาซื้อบ้านกันในช่วงที่ราคายังตกอยู่ขณะนี้ ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมดูบ้านของเธอ และบ้านหลังอื่นๆ ที่วาเลโฮ่และก็มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับคุณนฤวรรณ
ถ้าคุณผู้อ่านมีโอกาส ขอเชิญมาเยี่ยมชมเมืองวาเลโฮ่ด้วยตนเองสักสองหรือสามวัน
I’d like to tell you the personal story of Khun Naruwan, a Thai friend of mine. Khun Naruwan came to America in the early1980's, when she was in her early twenties, to continue her studies in the US. She got married to an American and had two children with him. She worked in a number of companies selling products from Thailand as a manager. She was divorced from her American husband after ten years of marriage and has been independent ever since. Later she found her passion in owning real estate and making a living through rental property. She taught herself how to build adobe houses and she has three of them at her resort in Chiang Mai, Thailand. Naruwan owns three rental properties in the Bay Area and also owns a lot of land in Thailand. She did extensive research on housing costs in the Bay Area, and in early 2010, she bought herself a lovely two-bedroom home at the price of $120,000 in the city of Vallejo where she now lives. Naruwan sees Vallejo as a great place to invest. She enjoys the beautiful weather of the Bay Area at her new house and has been inviting her close friends to join her investing in Vallejo. Yukiko, a Japanese friend of Khun Naruwan sold her expensive house in Berkeley for $700,000 and bought a small two-bedroom, one bath house with a large garden in Vallejo for $112,000. She says that she is happier there than when she lived in Berkeley because she has extra money to do many things and doesn’t have to deal with parking and major traffic problems in Berkeley. Naruwan and Yukiko are some of the people that are enjoying the benefits of investing in real estate during the tough economic times in America.
Khun Naruwan kept telling me about Vallejo, how good it is, the nice weather, how much she enjoys living there. She was hoping that more Thai people would come and buy property during this downturn period. Khun Naruwan invited me to see her house and to see other houses in Vallejo and I fell in love with the city too.
Don’t take our word for it. Take a few days off and come to check out Vallejo yourself.
วาเลโฮ่เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของรัฐแคลิฟอร์เนียในปีค.ศ. 1852 เมื่อตอนที่รัฐนี้ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นรัฐที่ 31 ของสหรัฐอเมริกา ชื่อเมืองวาเลโฮ่เป็นชื่อของแม่ทัพชาวเม็กซิกันที่ชื่อมาริอาโน่ วาเลโฮ่ผู้ที่ได้บริจาคที่ดินจำนวน 156 เอเคอร์เพื่อให้ก่อตั้งเป็นเมืองหลวงของรัฐ วาเลโฮ่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเคาน์ตี้โซลาโน่ มีประชากรตามสถิติของการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2,000 จำนวน 116,760 คน วาเลโฮ่ตั้งอยู่ในเขตซานฟรานซิสโก เบย์แอเรีย ทางตอนเหนือของอ่าวซาน พาโบล มีแม่น้ำนาป้าที่ไหลผ่านระหว่างตัวเมืองกับเกาะแมร์ไอแลนด์ มีฟรีเวย์ 80 ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างซานฟรานซิสโกกับซาคราเมนโต้ และมีฟรีเวย์อีกหลายสายที่เชื่อมต่อกับเมืองอื่นๆ ทั่วเบย์แอเรีย มีเรือรับจ้างแฟรี่เบย์ลิงค์ที่รับส่งนักเดินทางไปยังตึก Ferry Building ที่มีชื่อเสียงใจกลางเมืองซานฟรานซิสโกโดยใช้เวลาเพียง 50 นาที
นอกจากนี้วาเลโฮ่ยังมีแหล่งที่น่าดึงดูดใจอีกเช่น สนามกอล์ฟ 18 หลุมสามแห่ง พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะประวัติศาสตร์ ช็อปปิ้งเอาเล็ทราคาถูก
ในเดือนมิถุนายนของทุกปี เมืองวาเลโฮ่จัดให้มีเทศกาลโจรสลัด จะมีผู้คนนับพันแต่งตัวเป็นโจรสลัดมาร่วมชุมนุม พร้อมกับศิลปิน นักร้อง นักดนตรี นักรบดาบ นักหัตถกรรมที่สวนสาธารณะวอเตอร์ฟรอนท์ที่อยู่ติดกับอ่าว
Vallejo was the first capital city of the state of California in 1852. It’s named after the Mexican General Mariano Vallejo who donated 156 acres of land to establish the first capital of California as it joined the Union of the United States as the 31st state. Valljeo is the largest city in Solano County, California, with a population of 116,760 in the year 2000 census. Located in the San Francisco Bay Area on the northeastern shore of San Pablo Bay, the city of Vallejo is separated from Mare Island by the Napa River. The city is centrally located and is accessible by auto via Interstate 80 between San Francisco and Sacramento. Other freeways connect the city to the rest of the Bay Area. And Vallejo is in the unique postion to have the Baylink Ferry as part of their mass transportation system. In addition to buses the city runs a passanger ferry to and from the famous San Francisco Ferry Building. A number of people who live in Valljeo communte to work in San Francisco (50 minutes) using the ferry and enjoy a boat cruise just like being on a vacation.
Other attractions are the local golf courses (e.g. Mare Island Golf Club, Hiddenbrooke Golf Club, Blue Rock Springs Golf Club), museums, historic parks, discount outlet shopping, 15 miles from the renowned wine region of the Napa and the nearby Sonoma Valley.
In June every year, thousands of people come dressed up as pirates, musicians, singers, swordfighters and craftspeople to attend the annual Pirate Festival at Vallejo Waterfront Park.
ถ้าท่านผู้อ่านจะมาเยี่ยมชมเมืองวาเลโฮ่ด้วยตนเอง ควรพักอยู่อย่างน้อยสามวัน วันหนึ่งล่องเรือไปซานฟรานซิสโก วันหนึ่งไปทัวร์ไวน์คันทรีที่นาป้า และอีกวันก็ขับรถชมเบย์แอเรียหรือขับไปเที่ยวบ่อนคาสิโนแคชครีก ค่าห้องพักโรงแรมโดยเฉลี่ยตกคืนละ 70 เหรียญ
If you come to see Vallejo for yourself, plan to stay at least three days. You can rent a room at a reasonably priced hotel in Vallejo (about $70.00 per night), take the ferry to San Francisco ($13.00) to check out the city one day, then drive to Napa Valley the next day or experience the entertaining Cache Creek Casino Resort (one and a half hour).
การที่จะทำโครงการนี้ให้สำเร็จตามที่คาดหมายไว้นั้น เราจะต้องได้รับการสนับสนุนจากคนไทยทุกฝ่าย เราสามารถดูตัวอย่างจากลิตเติลไซง่อนในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ได้ ชาวเวียดนามได้รวมกลุ่มกันแล้วซื้อที่ดินที่ติดต่อกันในเมืองเวสท์มินสเตอร์ พวกเขาทำให้ลิตเติลไซง่อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแหล่งช็อปปิ้งและศูนย์อาหารของชาวเวียดนาม พวกเขาทำสำเร็จได้เพราะความร่วมมือที่สามัคคีกัน
Our group of Thai people is starting this long-range project and we will need the help and support of all Thai people to realize this dream of a new Thai Town. We can use the Little Saigon in Southern California as an example, where the Vietnamese community got together and bought pieces of property near each other in the city of Westminster in Orange County. They’re making their town appealing to tourists and the Vietnamese community from all over the US as a destination for restaurants and shopping. They supported each other to make it happen.
คนไทยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันที่เมืองวาเลโฮ่ เราควรจะรวมตัวกันเพื่อลงทุนสร้างให้เกิดขึ้น ขณะนี้เรามีที่ปรึกษาและอาสาสมัครจากหลายองค์กรที่จะทำให้โครงการนี้เป็นความจริงขึ้นมาได้ เช่น สมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ สมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ สมาคมไทยอีสานนานาชาติ มูลนิธิ SERVE และองค์กรอื่นๆ ที่กำลังจะเข้ามาให้การสนับสนุน พวกเราที่เป็นกลุ่มนักบุกเบิกรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และเรามีความปรารถนาที่จะทำให้มันเกิดขึ้นเพื่อที่จะทำให้เราชาวไทยภูมิใจว่าเราสามารถทำโครงการในระดับนี้ได้
We can do the same in Vallejo. It’s the best time right now for us to come together and invest. Currently we have advisors and volunteers from Thai Association of Southern California, Thai Association of Northern California, Thai Isaan International Association, the SERVE Foundation and more will join later as we work to make this project happen. These pioneers are all very excited and we really want this to happen and make people proud of what Thai people can accomplish.
เรากำลังจะจัดทำเวิร์คช็อปสำหรับแผนการสร้างไทยทาวน์เบย์แอเรียขึ้นในปลายปีนี้ให้กับนักลงทุนและผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งอีเมล์มาสอบถามได้ที่ thaitownofamerica@gmail.com หรือที่เว็บไซท์ thaitownofamerica.com ซึ่งกำลังจัดทำอยู่และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกสองเดือนข้างหน้านี้
We plan to have workshops on this project later this year for Thai investors and Thai people that would like to purchase property. For more information and updates, please email us at thaitownofamerica@gmail.com check out our Thai Town website at www.thaitownofamerica.com which will be available soon.
30 สิงหาคม 2553
August 30, 2010
โดย เบญจวรรณ ภูมิแสน
Benjawan Poomsan
____________________________________________________________
ประสบการณ์ที่ดีเกี่ยวกับสถานกงสุลไทยในชิคาโก
ถึงญาติและมิตรทุกท่าน http://www.thaichicago.net/หรือ โทรศัพท์: (1-312) 664-3129 ตามถนัดและสะดวก ก่อนลงมือยื่นคำร้องอะไร เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนโดยโทรไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลก่อน จะรวดเร็วไม่เสียเวลา ขอยืนยันจากที่ประสบด้วยตัวเอง และสังเกตจากผู้ไปรับบริการอื่นๆในขณะเดียวกัน ไม่ว่าไทย หรือฝรั่ง และเจ้าหน้าที่จะให้การบริการเหมือนกันหมด |
1 comment:
อยากย้ายไปอยู่ด้วยจังเลย
Post a Comment