Friday, August 20, 2010

Thai News 8-20-10

งานแสดงสินค้า New York International Gift Fair 2010
ณ อาคาร Jacob K. Javits Convention Center
ระหว่างวันที่ 14-19 สิงหาคม 2010

1. ข้อมูลทั่วไป
งานแสดงสินค้า New York International Gift Fair 2010
ผู้จัดงาน บริษัท George Little Management, LLC
10 Bank Street, White Plains, NY 10606-1954
Tel: (914) 421-3380 Fax: (914) 948-6180 Website: www.nyigf.com
เนื้อที่จัดงาน 640,000 ตารางฟุต
ลักษณะงาน งานแสดงสินค้านี้จัดเป็นงานแสดงสินค้าประเภทของขวัญของชำร่วยและอุปกรณ์เครื่องใช้ตกแต่งบ้านทุกชนิดที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักดีในวงการธุรกิจสินค้าประเภทนี้ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ งานดังกล่าวเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 (พ.ศ. 2471) ครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 82 ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ปีละ 2 ครั้งในนครนิวยอร์ก คือในช่วงเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ (Winter Show) และช่วงเดือนสิงหาคม (Summer Show) เนื่องจากงานมีขนาดใหญ่ จึงต้องกระจายสถานที่จัดออกไปหลายแห่ง คือ Jacob K. Javits Convention Center (Main Hall), Pier 92 และ Pier 94 ตามลำดับ โดยพื้นที่ที่ใช้แสดงสินค้าแบ่งได้เป็น 10 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะเน้นแสดงสินค้าที่แตกต่างกัน ดังนี้ คือ

Accent on Design: สินค้าที่มีรูปแบบและการออกแบบ
Just Kidstuff: สินค้าเกี่ยวกับเด็ก
At Home: สินค้าเครื่องตกแต่งบ้านสวยงาม
The Museum Source: สินค้าเกี่ยวกับ Museum Gift และสินค้า Reproduction
Handmade: สินค้าทำจากมือที่มีความประณีตสวยงาม
General Gift: สินค้าของขวัญของชำร่วยทั่วไป
Tabletop & Homewares: สินค้าเครื่องจานชามช้อมส้อมและเครื่องใช้บนโต๊ะ
Personal Accessories: เน้นของขวัญของชำร่วยที่ใช้แสดงหรือ express personal taste เพื่อให้เป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ
New & Distinctive: เน้นสินค้าที่แปลกใหม่และแสดงถึงแนวโน้มของสินค้าต่างๆ
Floral & Garden Accessories: เน้นสินค้าดอกไม้ ต้นไม้ประดิษฐ์กระถางต้นไม้ และของใช้ในสวนต่างๆ

งาน NYIGF ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทั่วทุก Hall รวมทั้งหมด ประมาณ 2,800 บริษัท และมีผู้เข้าชมงานประมาณ 35,000 ราย งานนี้ถือเป็นงานแสดงสินค้าของขวัญของชำร่วยและของตกแต่งบ้านที่เป็นที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยมีคูหาจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาและจากต่างประเทศ (รวมถึงประเทศที่เป็น National pavilion และ National Stand) จำนวน 13 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี กานา อินเดีย อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก เปรู เกาหลีใต้ สเปนและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้แล้ว ผู้จัดงานฯ ได้จัดสรรพื้นที่บริเวณทางเข้าอาคาร Javits Center ส่วนหนึ่งสำหรับแสดงสินค้าที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ผู้สนใจได้มีโอกาสชมสินค้าเหล่านั้นอีกด้วย
ประเภทสินค้าที่นำมาแสดง General giftware, tabletop and homewares, decorative and personal accessories (travelware, etc.) and personal care, museum gifts, ethnic, traditional, country and contemporary crafts, specialty foods, contemporary design products, juvenile products, floral products, gardening and pet products.
ประเภทผู้ที่เข้าชมงาน Specialty and department stores, gift shops, jewelry stores, interior designers, retailers of home products, mail order catalogs, museums and galleries, stationery stores, craft retailers, garden centers, book stores และ Mom & Pup Shop
กำหนดการจัดงานนี้ในครั้งต่อไป 29 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2011 (Winter Show)
2. สรุปผลการเยี่ยมชมงาน
2.1.ในปีนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมมือกับสถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติและสมาคมไหมไทยนำสินค้าผ้าไหมและสินค้าตกแต่งบ้านที่ทำจากผลิตภัณฑ์ไหมที่ได้รับตรานกยูงพระราชทานและสินค้าผ้าไหมจากสมาชิกสมาคมไหมไทยมาจัดแสดงภายในงาน NYIGF มาจัดแสดงในส่วน At Home Division ในบริเวณคูหาหมายเลข 7964 (400 ตารางฟุต) เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แบรนด์ดังกล่าวให้
เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งแบรนด์ “ตรานกยูงพระราชทาน” จะช่วยสร้างมาตรฐานและรับประกันคุณภาพของผ้าไหมไทยได้เป็นอย่างดี

ในปีนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าวถือว่าเป็นการเปิดตัวหัตถกรรมไทยสู่ตลาดโลกได้อย่างงดงาม เพราะ สินค้าหมอนหนุนที่ทำจากผ้าไหมไทย (ดังปรากฎในรูปด้านล่าง) ได้รับรางวัล Finalist: Best New Product Awards ในกลุ่ม Bed Category จาก Home Textile Market Week นับเป็นก้าวสำคัญที่สินค้าไทยจะสามารถครองใจผู้บริโภคในตลาดสหรัฐอเมริกา โดยใช้ชื่อแบรนด์ไทย นักออกแบบไทยและวัตถุดิบของไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ







2.2. มีบริษัทผู้นำเข้าไทยออกคูหาในงานดังกล่าว จำนวน 4 ราย คือ
บริษัท Vance Kittira International (http://vancekitira.com/) จำหน่ายผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านประเภทเทียนและผลิตภัณฑ์ประดับโต๊ะอาหารมีรูปแบบอิงธรรมชาติ เช่น ถ้วย ชามแบบฟรีทรานฟอร์ม กระดานชอล์ก กรอบรูป เป็นต้น
บริษัท Urban Oasis (http://www.urbanoasis.us/) จำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับตกแต่งบ้านและประดับโต๊ะอาหาร เช่น ชุดจานชามเซรามิก และของตกแต่งที่เกี่ยวข้องที่ทำจากเซรามิก
บริษัท Nook Nook (http://www.nook-nook.com/) จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเด็ก เช่น ตุ๊กตาผ้า พวงกุญแจและตุ๊กตาติดผนัง เป็นต้น
บริษัท Nakamol (www.nakamolchicago.com)จำหน่ายเครื่องประดับ เช่น สร้อย กำไล ต่างหู ที่ทำจากหินสี
ผู้นำเข้าให้ความสนใจเยี่ยมชมคูหาไทยดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จากการหารือกับผู้นำเข้า พบว่า
- ตลาดของขวัญของตกแต่งบ้านเริ่มมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การรักษาแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ยังควรกระทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ารู้ว่ายังมีแบรนด์อยู่ในตลาด
- ผู้ซื้อของขวัญและของตกแต่งบ้านในตลาดสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่เป็นร้านค้าปลีกขนาดกลางและย่อม ดังนั้น จึงไม่นิยมซื้อสินค้าไปเก็บไว้ ซึ่งบริษัทควรมีบริการจัดส่งสินค้าอย่างทันท่วงทีในกรณีที่ลูกค้า Re-Order
- บริษัทควรตื่นตัวและมีการสรรหาสินค้าแนวใหม่ๆ เพื่อกระจายเข้าสู่ผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างไป เช่น ของเล่นเด็กที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติหรือของขวัญที่ผลิตจากฝีมือชาวบ้านที่นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังถือเป็นการช่วยส่งเสริมและสร้างงานในชุมชน
2.3.สินค้าที่โดดเด่นในงานดังกล่าว คือ สินค้าเน้นการออกแบบ สินค้าแนวกลับคืนสู่ธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อมจะได้รับการนิยมสูง (ตัวอย่างภาพที่ได้รับการคัดสรรจาก WGSN ซึ่งเป็นบริษัทคาดการณ์แนวโน้มแฟชั่นชื่อดังทางยุโรป ดังปรากฎในเอกสารแนบ 2)
3.ข้อเสนอแนะจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
3.1.ควรส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์สินค้าของขวัญและของตกแต่งบ้านจากไทย เพื่อจะได้ยกระดับราคาสินค้าไทยให้สูงขึ้นและสามารถเข้าสู่ตลาดระดับบนได้
3.2.ควรสนับสนุนให้สมาคมของขวัญของตกแต่งบ้านรวมกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อหาตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและมีโชว์รูมแสดงสินค้า เพื่อรับคำสั่งซื้อและมีโกดังเก็บสินค้าขนาดกลาง เพื่อจะได้กระจายสินค้าไปยังผู้ซื้อได้ทันท่วงที เพราะ ผู้ซื้อในตลาดสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขนาดกลางและเล็กและให้เวลาในการส่งมอบสินค้าสั้น ดังนั้นการมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพียงอย่างเดียว จึงไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องคำสั่งซื้อ
3.3.เนื่องด้วยผู้ซื้อในตลาดสหรัฐอเมริกาบางรายมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าของขวัญของตกแต่งบ้านไทยไม่มากนัก ดังนั้น การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับผู้ซื้อในตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้ผู้ซื้อรู้จักสินค้าไทยมากขึ้น
3.4.ในส่วนของผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายทอมือที่เป็นหัตถกรรมพื้นบ้าน ควรจะหา Partner ที่เป็นดีไซน์เนอร์ ในต่างประเทศ ซึ่งสามารถออกแบบสินค้าและเข้าถึงรสนิยมของผู้บริโภคมากกว่า

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
19 สิงหาคม 2553

No comments: