Thai Photographer in Magazine

Wedding Guru Magazine, current issue, published a story of a Thai photographer in USA, who recently nominated and voted for "The best photographer in Chicago" by the "Knot Best of Wedding Magazine", national version. You can find this issue of the Wedding Guru magazine in any book stores in Thailand right now.
การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสุดฮิตคงต้องเตรียมหลบฉากให้เทรนต์ใหม่ล่ามาแรง จากช่างภาพสาวไทยผู้ไปสร้างชื่อไกลถึงสหรัฐอเมริกาอย่าง "คุณเอื้อง - ปียฉัตร ไชยศร" ที่บอกว่าถูกอกถูกใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวรุ่นใหม่ ตรงที่ทั้งคู่สามารถใส่ชุดวิวาห์ไปลุยน้ำทะเล เกลือกกลิ้งบนพื้นทราย หรือแอบทำอะไรซนๆ เพื่อให้ช่างภาพเก็บความประทับใจใด้อย่างไม่ต้องกลัวเลอะ เพราะจะเริ่มกดชัตเตอร์กันได้ก็ต่อเมื่อพิธีแต่งงานเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น


คุณเอื้อง - ปียฉัตร ไชยศร หรือเป็นที่รู้จักกันในอเมริกาว่า คุณ Amie Hana ได้ลงสัมภาษณ์นิตยสารที่เมืองไทย "Wedding Guru" คุณAmie ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา

"หนุ่มสาวอเมริกาหันมาให้ความสนใจแพ็กเกจนี้กันเยอะมาก (เน้น) ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวัฒนธรรมที่โน้นไม่เอื้อต่อการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอยู่แล้ว เนี่องจากชาวคาทอลิกเชื่อว่าเจ้าบ่าวไม่ควรเห็นเจ้าสาวสวมชุดแต่งงานก่อนเข้าโบสถ์ ถ้าเห็นจะถือว่าเป็นลางไม่ดี ดังนั้นก็เลยมีแค่ "Engagement Session" ซึ่งมีลักษณะเหมือนรูปคู่รักในชุดลำลองแบบชีวิตประจำวันทั่วๆไป แต่จะถ่ายกันก็ต่อเมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงรับคำขอเท่านั้น ทีนี้เมื่อถึงวันจริงก็ต้องดูเป็นทางการหน่อย โพสท่าสนุกสนานมาก ไม่ได้เดี๋ยวชุดเลอะ (หัวเราะ) จุดนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของการถ่ายภาพหลังวันวิวาห์แบบ "Trash The Dress" แปลตรงตัวก็คือ "ทิ้งชุดไปเลย" ไม่ต้องกลัวเปื้อน"

ช่างภาพสาวเล่าถึงความนิยมและความสำคัญในรายละเอียดที่ต่างออกไปตามวิถึการดำเนินชีวิตของชาวตะวันตก ก่อนจะวกกลับมาเล่าถึงภาพแต่งงานที่เปิดโอกาสให้คู่หวานได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่

หากจินตนาการตามเพียงผิวเผิน การถ่ายภาพแต่งงานแบบสารคดีที่ว่ามานั้นช่างดูง่ายและซับซ้อนน้อยกว่าพรีเวดดิ้งแนวแฟชั่นเป็นไหนๆ จนเมื่อเธอเริ่มเล่าลงลึกไปในรายละเอียด จึงพบว่าคิดผิดถนัด เพราะอุปสรรคซึ่งยากจะหลีกเลี่ยงมีอยู่มากพอควร หากจินตนาการตามเพียงผิวเผิน การถ่ายภาพแต่งงานแบบสารคดีที่ว่ามานั้นช่างดูง่ายและซับซ้อนน้อยกว่าพรีเวดดิ้งแนวแฟชั่นเป็นไหนๆ จนเมื่อเธอเริ่มเล่าลงลึกไปในรายละเอียด จึงพบว่าคิดผิดถนัด เพราะอุปสรรคซึ่งยากจะหลีกเลี่ยงมีอยู่มากพอควร

"ความที่ทุกอย่างในพิธีแต่งงานไม่สามารถย้อนคืนมาให้เก็บภาพใหม่ได้อีกรอบ ผ่านแล้วก็ผ่านเลย แถมยังเกิดขึ้นติดต่อกันในระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้นต้องมีไหวพริบมากพอสำหรับการปรับเปลื่ยนค่าต่างๆของกล้อง ความทั้งสไตล์การถ่ายรูปให้ทันกับเรื่องตรงหน้า โดยไม่ต้องวิเคราะห์ว่าควรจะถ่ายรูปเจ้าสาวหัวเราะดีไหม หรือต้องถ่ายตอนทั้งคู่วิ่งหลบฝนหรือเปล่า เพราะพริบตาเดียวเหตุการณ์นั้นๆ ก็หายไปแล้วโดยเฉพาะตอนที่เจ้าสาวเดินเข้ามาในโบสถ์ นี่พลาดไม่ได้เลยค่ะ สำคัญมาก เนื่องจากเป็นภาพซึ่งเจ้าบ่าวฝันหาและรอคอยมาตลอดชีวิต (ยิ้ม).

Images on the page


"จริงๆแล้วถนัดถ่ายภาพแบบ "Documentary" หรือ "Journalistic Style" ซึ่งมีลักษณะการทำงานคล้ายกับช่างภาพหนังสือพิมพ์ในแง่ของการช่วยบันทึกความ เป็นจริงและเหตุการณ์ซึ่งเกิดขี้นในตอนนั้นมากกว่าค่ะ (ยิ้ม) พูดง่ายๆว่า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ กำหนดการเป็นอย่างไปก็ตามนั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ต้องช่วยหันหรือหยุดโพสท่าให้.

"โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าภาพต้องสามารถบอกเรื่องราวและสะท้อนให้เห็นอารมณ์ของทุกเหตุการณ์ที่มีความหมาย เพราะการบันทึกครั้งนี้ต้องอยู่กับเขาทั้งคู่ไปตลอดชีวิต เช่นตอนเจ้าบ่าวกำลังน้ำตาไหลเมื่อเห็นเจ้าสาว นี่เป็นประเด็นที่ถึงแม้จะเล็ก แต่พิเศษและมีค่ามาก ถ้าช่างภาพพลาด ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะถูกลืมไปตามกาลเวลาหรืออาจถึงขั้นหายไปจากความทรงจำ จุดนี้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะทีเดียว"

อดีดพยาบาลผู้ผันตัวมาเป็นช่างภาพอาชีพตามคำเรียกร้องของหัวใจ อธิบายถึงงานที่รักด้วยน้ำเสียงซึ่งแฝงความสุขไว้อย่างเปี่ยมล้น

Images on the page

"เจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่อยากให้รูปแต่งงานของตัวเองไม่เหมือนใครน่าจะชอบเลยน่ะค่ะ ช่างภาพเองก็รู้สึกสนุกไปด้วย เวลาได้ทำงานกับคู่แต่งงานที่กล้าลากกระโปรงยาวๆ หรือสูทเนี้อบๆลุยบนชายหาด ใส่ดำลงไปในทะเลหรือน้ำพุกลางเมืองทั้งชุดสวยๆแบบนั้น (ยิ้ม) โชคดีตรงที่ทุกวันนี้ยังไม่เคยเจอใครเข้ามาว่าหรือตักเตือนอะไร แม้กระทั่งตำราจก็ยังปล่อย (หัวเราะ)"

"เพราะการบันทึกครั้งนี้ต้องอยู่กับเขาทุ้งคู่ไปตลอดชีวิต เช่นตอนเจ้าบ่าวกำลังน้ำตาไหลเมื่อเห็นเจ้าสาว นี่เป็นประเด็นที่ถึงแม้จะเล็ก แต่พิเศษและมี่ค่ามาก"


"เมื่อก่อนนี้ไม่เคยรู้สึกถึงความแตกต่างในเรื่องของอารมณ์ที่สื่อถึงความอ่อนหวานกระทั่งมีคู่หนึ่งบอกได้ทันทีที่เห็นผลงานว่า "ช่างภาพคนนี้ต้องเป็นผู้หญิง" จึงได้เริ่มสังเกตพอร์ตโฟลิโอของคนอื่น แล้วก็เห็นว่าจริง (หัวเราะ) ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะคะ ยอมรับว่าคิดไม่เหมือนกัน ข้อดีข้อเสียในการทำงานก็ต่างกัน แต่ส่วนที่ช่างภาพหญิงได้เปรียบน่าจะเป็นโอกาสในการเข้าถึงช่วยเวลาเป็นส่วนตัวมากๆ อย่างเช่นห้องแต่งตัวของเจ้าสาว รวมทั้งเด็กๆ และ "Flower Girl" ที่มาช่วยถือดอกไม้ ซึ่งมักจะเขินหรือกลัวช่างภาพผู้ชาย เพราะตัวโตกว่ากันเยอะ (ยิ้ม)"


Images on the page



Amie Photography
www.amiephotography.com
Amie Hana หรือ ปียฉัตร ไชยศร was born and raised in Thailand before emigrating to Chicago to work as a registered nurse in the ICU. She also worked in Health Care Management before pursuing her passion for art and photography. In 1993, Amie made the leap and left the health care profession to pursue photography full time. Since then, Amie has made a name for herself for her amazing work. Amie’s photography has graced the covers of many wedding magazines, fashion magazines, and displayed inside magazines through advertisement campaigns. Her amazing work was recently recognized by The Knot Best of Weddings Magazine, who nominated her for “The Best Photographer in Chicago.”