Tuesday, October 12, 2010

Thai News 10-12-10


อย่าลืมงานคอนเสิร์ตการกุศลที่วัดธรรมารามวันเสาร์นี้น่ะค่ะ


Halloween party at midnight at Dharma Garden



___________________________________________________________________


Thai Town Center on local newspaper


___________________________________________________________________


สวัสดีพี่และเพื่อนที่รักทุกท่าน

นสพ.ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์และเว็บไซต์ได้ปิดไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 7 ต.ค. ทุกท่านที่เคยติดตามไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ วันอาทิตย์นี้ 10 ต.ค. นี้ท่านจะสามารถติดตามผลงานใหม่โดยการนำของบก.คุณภาณุพล รักแต่งาม ในนสพ.สยามทาวน์ยูเอส จะวางตลาดฉบับปฐมฤกษ์ในวันดังกล่าวและจะส่งมาถึงชิคาโกในต้นสัปดาห์หน้านี้

สำหรับเว็บไซต์ของนสพ.สยามทาวน์ยูเอส ขอให้กรุณาอดใจรออีกไม่นาน ทราบข่าวว่าทีมงานกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะนำมาเสนอให้เร็วที่สุด
จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ ณ ที่นี้

วรรณดี เลิศบูรพา
สื่อมวลชนชิคาโก

___________________________________________________________________


Tamboon pictures by Thai Association on 10/12/10
by khun wanlapha kongsri at Dharma garden thai restaurant
All monks are from Wat dhammaram
เจ้าภาพ คุณ วัลลภา คงศรี สมาคมไทย แห่งรัฐอิลินอยด์
กับ เพื่อนๆ ร่วมมทำบุญ เลี้ยงพระ จากวัดธรรมราม ที่ร้านอาหาร ไทยประจำรัฐนี้ ธรรมะ การ์เด้น แซ่บๆ
มี คุณ อรุณ สัมพันธวิวัฒน์, คุณนงลักษณ์ กิตติคตำรณ, คุณจุรีรัตน์ วัฒนวิกรรณ คุณ กานดา พ่วงประเสริฐ













___________________________________________________________________

เรื่อง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานผ้าพระกฐินทอดถวาย วัดพุทธธรรม

อ้างถึงหนังสือที่ รล ๐๐๐๖/๑๓๙๐๒ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานผ้าพระกฐินทอดถวาย ณ วัดพุทธธรรม

เมืองวิลโลว์บรูค รัฐอลลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ

พระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ ๘๓ พระชันษา ในวันที่ ๕ ธันวาคมที่จะถึงนี้

จึงเจริญพรให้สาธุชนได้รับทราบโดยทั่วกัน

พระธรรมวัฑฒ์ ธมฺมวฑฺฒโน

วัดพุทธธรรม

๙ ตุลาคม ๒๕๕๓

___________________________________________________________________


Congratulations to Aruns Thai Restaurant for the 5 Stars Award again this year.



____________________________________________________________________

สกญฯ ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์คนไทยร่วมกันภาคภูมิใจในฝีมือลูกหลานไทย นายณรงค์ ปรางเจริญ ศิลปินแห่งชาติร่วมสมัยปี 2007 นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิคที่ขณะนี้พำนักอยู่ที่เมืองแคนซัสซิตี้ ผลงานของนายณรงค์ฯ จะปรากฎในงานดนตรี 2 งาน ในวันที่ 23 และ 29 ตุลาคมนี้ ที่เมือง Bowling GreenOH และ MinneapolisMN ตามลำดับ รายละเอียดปรากฎในเอกสารแนบมา ผู้ใดสนใจหรือมีเพื่อนฝูงอยู่ที่สองเมืองดังกล่าว ช่วยกันกระจายข่าวด้วย จักขอบคุณมาก
สกญฯ ชิคาโก

----------------------------

Narong Prangcharoen
Composer

The music of Thai composer NARONG PRANGCHAROEN has been called “absolutely captivating” (Chicago Sun Times). Although still in his early thirtiesPrangcharoen has established an international reputation and is recognized
As one of Thailand’s leading composers. Prangcharoen has received many international prizesincluding the Alexander Zemlinsky International Composition Competition Prizethe 18th ACL Yoshiro IRINO Memorial Composition Awardthe Pacific Symphony’s American Composers Competition Prizethe Toru Takemitsu Composition Awardand most recentlythe Annapolis Charter 300 International Composers Competition Prize. In 2007the Thai government named Prangcharoen a Contemporary National Artist and awarded him the Silapathorn Awardone of Thailand’s most prestigious honors.
Prangcharoen’s music has been performed in AsiaAmericaAustraliaand Europe by many renowned ensembles such as the Tokyo Philharmonic Orchestrathe Pacific Symphonythe Grant Park Orchestrathe Nagoya Philharmonicthe Melbourne Symphonythe Annapolis Symphony Orchestraand the Bohuslav Martinů Philharmonicunder many well-known conductorssuch Carl St. ClairCarlos KalmerJose-Luis Novoand Mikhail Pletnev. His music has also been presented byamong othersThe Chamber Music Society of Lincoln CenterEnsemble TIMFThe New York New Music Ensemblethe Imani Windsand pianist Bennett Lerner.

--------------------------

October 23,2010
8 PM: Concert 7

The 31st Annual New Music Festival

College of Musical ArtsBowling Green State University
The Moore Musical Arts CenterKobacker Hall
1031 Moore Musical Arts CenterBowling GreenOH 43403
Admission: Adults $10Students $7$13/$10 day of show

Works for orchestra and wind ensembleperformed by the Bowling Green Philharmonia and Wind Symphonyfeaturing saxophone soloist John Sampen.

* Northern Light (1997): David Liptak
* Poetry of the Piedmont (2006): Stephen Jaffe
* Pilgrimage (1997): Robert Morris
* A Brandenburg Autumn (2006): Stephen Hartke
* Wind (world premiere2010): Chen Yi
* Mantras (2010): Narong Prangcharoen
* Matins (2007): Marilyn Shrude

­­­Tickets are available from the Moore Musical Arts Center Box Officeopen weekdays noon–6 p.m.
Call (419) 372-8171 begin_of_the_skype_highlighting (419) 372-8171 end_of_the_skype_highlighting or (800) 589-BACH (2224) for tickets.
Contact the MidAmerican Center for Contemporary Music at (419) 372-2685

--------------------------

October 29, 2010
8PM: Osmo Vänskä Conducts Future Classics

The Minnesota Orchestra's 10th Annual Composer Institute

Orchestra Hall 1111 Nicollet MallMinneapolisMN 55403
Admission: Adults $20-$40Students (age 6-17) $12

Seven composers have been selected as participants in
The Minnesota Orchestra's 10th Annual Composer Institute. Chosen from a pool of 167 candidates through a competitive processthese seven composers hail from locations throughout the U.S.and their works represent a variety
Of musical styles. They will travel to Minneapolis for six days of rehearsalsseminars and tutoring sessions from October 24 to 302010culminating in a public Future Classics concert of their works with The Minnesota Orchestra led by the Orchestra's Music Director Osmo Vänskä.

They are:
Taylor Brizendine : MANDRAGORA OFFICINARUM
Wang Jie (PhildelphiaPA): SYMPHONY #1
Polina Nazaykinskaya (AustinTX): WINTER BELLS
Clint Needham (BloomingtonIN): THE BODY ELECTRIC
Ben Phelps (Los AngelesCA): OVERTURE MAXIMUS
Narong Prangcharoen (Kansas CityMO): NAMASKAR
David Weaver (PhiladelphiaPA): MUTATIS MUTANDIS

Tickets are available at http://www.minnesotaorchestra.org/

______________________________________________________________


2 ปีโอบามา : ศก.อเมริกายังสั่นคลอน

พีร์ พงศ์พิพัฒนพันธุ์ : piralv@yahoo.com

ยังไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นหลังเท่าไหร่ครับ สำหรับความเป็นไปของเศรษฐกิจอเมริกาในเวลานี้ ตามแผนฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลบารัก โอบามา ที่ประกาศก่อนหน้าที่ตัวนายโอบามาเองจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 44 เสียด้วยซ้ำ

ผมถูกถามจากเพื่อนๆ โดยเฉพาะจากเมืองไทยหลายคนถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไปของอเมริกา ก็ต้องบอกไปว่า บรรยากาศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อปีสองปีที่แล้วมากนัก อเมริกันส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาด้านการเงินยังคงสาละวนกับการแก้ปัญหาของตัวเองและครอบครัวไม่ค่อยจะได้

เช่น ปัญหาการปลดคนงานและการว่างงาน แม้คนงานเหล่านี้จะได้รับการขยายเวลาเพื่อรับเงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจาก 6 เดือน เป็น 8 เดือน หรือกระทั่งถึง 1 ปีก็ตาม แต่การผูกโยงตัวเองและครอบครัวเข้ากับเศรษฐกิจหน่วยอื่นๆ ทำให้การลุกขึ้นเดินอีกครั้งของพวกเขาต้องประสบกับความยากลำบาก

รวมทั้งเจ้าของกิจการทุกขนาด หลายประเภท ที่ต้องเผชิญกับการปฏิรูปหรือเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการลงทุน ทำธุรกิจใหม่ ที่เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น จากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ตามรัฐตามเมืองต่างๆทั่วประเทศ ทำให้การเคลื่อนไหวในเชิงบวก เป็นไปอย่างเชื่องช้า เห็นได้ยาก

เช่น ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยหรือวิกฤตอสังหาริมทรัพย์(Subprime crisis) ที่เกิดจากการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรของกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ร่วมกับสถาบันการเงินซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว เวลานี้คนอเมริกันจำนวนมากก็ยังมีปัญหาไร้ที่อยู่อาศัย ไม่สามารถมีบ้านหรือคอนโดฯ เป็นของตัวเองได้ แสดงให้เห็นความไม่เวิร์คของนโยบายลดหย่อนผ่อนปรนด้านหนี้สินที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยผ่านการอนุมัติจากฝ่ายรัฐบาลและคองเกรส(ที่เดโมแครตถือครองเสียงข้างมากอยู่)

สินทรัพย์ของแบงก์และสถาบันการเงินที่มาจากการยึด เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระต่อ แล้วถูกบังคับให้เดินออกจากบ้านไป ที่เรียกกันว่า Foreclosure จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ สินทรัพย์พวกนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลต้องการให้ให้มีคนหรือนักลงทุนมาซื้อ (แม้แต่นักลงทุนจากต่างชาติ) แต่ด้วยเงื่อนไขและกฎระเบียบที่ซับซ้อนและเข้มงวด ทำให้การขายสินทรัพย์ออกและการลงทุนไม่เป็นไปตามคาด

การเคลื่อนไหวไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นสำหรับเศรษฐกิจของอเมริกา จึงอุ้ยอ้ายเชื่องช้า

หากน้อมรับคำทำนายเศรษฐกิจอเมริกาของบรรดานักเศรษฐศาตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายคน ก่อนที่โอบามาจะเข้าดำรงตำแหน่งที่ส่วนใหญ่ระบุว่า เศรษฐกิจของอเมริกาอาจใช้เวลานานเกินกว่า 5 ปีในการฟื้นตัว อาจไม่น่าแปลกใจมากนัก แต่หากเป็นชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตประจำวันประเภทไปเช้าเย็นกลับและเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมถึงขนาดกลางแล้วคงต้องบอกว่า ค่อนข้างทรมานกับความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เพราะเป็นไปอย่างอืดอาดเสียเหลือเกิน

จึงไม่แปลกเช่นเดียวกัน ที่จากโพลล์ผลสำรวจทุกครั้ง คะแนนของโอบามาหล่นเอาๆทุกที

อย่างไรก็ตาม หากให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลโอบามาแล้ว คงต้องบอกว่า ผู้นำคนปัจจุบันและพรรคเดโมแครตได้พยายามแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากหลายประเด็นปัญหาเกี่ยวข้องกับกฎหมายและกฎระเบียบ ที่จะต้องผลักดันผ่านสภาคองเกรส ที่มีเสียงแย้งไม่เห็นด้วยอยู่ในนั้น จึงไม่ง่ายในการออกกฎหมายแต่ละฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเงินอุดหนุนและงบประมาณ ที่ฝ่ายพรรครีพับลิกันและแม้คนของเดโมแครตเองเห็นไปอีกทาง

ถึงตอนนี้ เพื่อนอเมริกันของผมหลายคน ยังไม่สามารถกำหนดทางเดินใหม่ได้ คือ เรื่องบ้านก็ยังค้างคา รอการตอบรับของแบงก์เจ้าหนี้ว่าจะเอาอย่างไร ตกลงรับหรือไม่ตกลงรับ เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการประเมินราคาสินทรัพย์ใหม่ ภายหลังฟองสบู่แตก(ราคาทรัพย์สินในหลายเมืองปรับลดลงอย่างมาก) ขณะที่เงินจำนวนหนึ่งก็ถูกจ่ายไปสำหรับเป็นค่าทนายดำเนินเรื่อง ซึ่งไม่รู้ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่

กรณีการซื้อขายสินทรัพย์(เช่น บ้าน คอนโดฯ)ที่กำลังจะถูกทิ้ง หรือลูกค้าทิ้งไปแล้ว มีระเบียบและพิธีการขั้นตอนทางกฎหมายค่อนข้างมาก ทั้งๆที่ลูกค้าจำนวนไม่น้อย เป็นลูกค้าที่มีเครดิตดี (เพราะการยุบลงของราคา หลังจากการปั่นราคาให้สูงเกินจริง เศรษฐกิจรวนทำให้รายได้ลดลง การส่งเงินค่างวดมีปัญหา) แต่ด้วยพิธีการทางกฎหมายทำให้สถาบันการเงินไม่อยากจะคุยกับลูกค้าโดยตรง สินทรัพย์จำนวนมาก ต้องถูกปล่อยให้ไร้ซึ่งประโยชน์ และเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

ใช่ว่าเรื่อง Foreclosure จะจบครับ ล่าสุดสัปดาห์นี้ ประธานสภาล่าง(House) สส.แนนซี่ เปลอสซี(Nancy Pelosi) และ สส.โซ โลฟเกร็น(Zoe Lofgren) ร่วมกับสส.แคลิฟอร์เนียพรรคเดโมแครตจำนวนหนึ่ง ทำหนังสือถึงประธานธนาคารกลาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(อัยการ)และหัวหน้าตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้สอบสวน 2 ธนาคารใหญ่ของอเมริกา คือ แบงก์ออฟอเมริกา กับ เจ.พี.มอร์แกนเชส กล่าวหา 2 สถาบันว่า มีพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคต่อนโยบายการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ตามที่คองเกรสได้ออกกฎหมายช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้

ประมาณว่า สองธนาคารไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คือ ไม่ผ่อนปรน ไม่เจรจา ไม่อ่านเอกสารของลูกค้าที่ประสบการเงิน ปัญหาผ่อนงวด เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตายึดและขายทรัพย์สินออกอย่างเดียว

จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าเจ้าหน้าที่ของแบงก์ออฟอเมริกา เจ.พี. มอร์แกนเชส และบริษัทในเครือ กระทำผิดกฎหมายใน 23 รัฐ เพราะตามปกติแบงก์จะต้องทำเรื่องยื่นฟ้องศาล เพื่อยึดและขายสินทรัพย์ แต่ขั้นตอนที่ทำกันนั้นถูกมองจากคองเกรสและหน่วยงานด้านกฎหมายของหลายๆรัฐเหล่านี้ว่ารวบรัด ไม่ให้โอกาสลูกค้า

ประธานสหภาพแรงงานผลิตรถยนต์ บ็อบ คิง ถึงกับออกมาขู่ว่า สหภาพฯจะถอนเงินฝากจากเจ.พี. มอร์แกน เชส หากว่า แบงก์ยังคงเดินทางหน้ายึดและขายสินทรัพย์ โดยไม่ยอมให้สมาชิกของสหภาพฯในรัฐมิชิแกนพักการชำระหนี้ เป็นเวลา 2 ปี

ขณะเดียวกัน อีกด้าน เศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ที่เป็นพื้นฐานให้เศรษฐกิจในระดับประเทศ ก็กลับฟื้นตัวได้ยากยิ่ง เมื่อคนไม่มีรายได้ ภาษีก็เก็บไม่ได้ เมืองในหลายรัฐก็ถึงกาลล้มละลาย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับหลายเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย นั่นคือ รายจ่ายมากรายได้ แม้ในตอนนี้ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะได้พยายามสร้างแรงจูงใจในการลงทุน โดยหวังดึงนักลงทุนชาติเอเชีย แต่ก็ประสบผลสำเร็จไม่มาก

ส่วนหนึ่ง เพราะนักลงทุนต่างชาติขาดความเข้าใจในเรื่องกฎ กติกา การลงทุน ทั้งๆที่เวลานี้ อเมริกาต้องการทุนจากต่างประเทศมากที่สุด!

กอปรทั้ง มีเงื่อนไขหนึ่งที่กลายเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน คือ ความเข้มงวดเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคง ในฐานะอเมริกาเป็นประเทศเป้าหมายของการก่อการร้าย เรื่องนี้ได้มีการพูดกันในบรรดานักธุรกิจเอเชียน ที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนในอเมริกา ดูเหมือนนักลงทุนเหล่านี้จะต้องรายงานหรือแจ้งต่อทางการอเมริกันทั้งเรื่องกิจการ เช่น ที่มาที่ไปของเงิน และประวัติส่วนตัวของผู้ลงทุนละเอียดยิบ ซึ่งหาใช่วิถีธรรมชาติของนักธุรกิจชาติเอเชียไม่

จึงไม่ง่ายเลยสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา จากแต่เดิมประมาณกัน 5 ปี ตอนนี้ขยายเป็น 7 ปี ซึ่งก็ไม่รู้จะเอาอยู่หรือเปล่า

เพียงอดคิดไม่ได้ว่า อย่างน้อยในประเทศนี้ การเอาเปรียบลูกค้าของแบงก์ในหลายเรื่องก็มีทางแก้ให้เห็นชัดเจนและได้ผล แบงก์จึงต้องปรับตัวอย่างมาก เช่น ในเรื่องค่าธรรมเนียม เป็นต้น

ไม่เหมือนในบางประเทศที่อ้างว่าปรับเปลี่ยนแล้ว แต่จริงๆแล้ว เป็นการเล่นแร่แปรธาตุค่าธรรมเนียม โดยที่ลูกค้ายังคงรับสภาพ เบี้ยล่างธุรกรรม เหมือนเดิม


______________________________________________________________


งานแสดงสินค้า The 2010 Mid-Atlantic Food, Beverage & lodging EXPO @ Baltimore Convention Center, Maryland 6-7 ตุลาคม 2553

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ได้เดินทางไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า The 2010 Mid-Atlantic Food, Beverage & Lodging EXPO ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2553 ณ Baltimore Convention Center, Maryland โดย The Restaurant Association of Maryland, Virginia Hospitality & Travel Association และ Restaurant Association Metropolitan Washington เป็นงานแสดงสินค้าและบริการด้านร้านอาหารและบาร์โดยเฉพาะ ประกอบด้วย อุปกรณ์เครื่องใช้ เครื่องจักรอัตโนมัติต่าง ๆ ที่ใช้ในการแปรรูปและประกอบอาหาร วัตถุดิบ/วัตถุเจือปนอาหาร อาหารแช่เย็น/แช่แข็ง ผักสด อาหารทะเล อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส ขนม/เบกอรี่ และ เครื่องดื่ม/น้ำผลไม้ รวมทั้ง คอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ไอที เครื่องบรรจุภัณฑ์ การสัมมนาให้ความรู้ และการสาธิตด้านอาหารจากผู้เชื่ยวชาญที่มีชื่อเสียง

งานนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าอาหาร เครื่องจักรในอุตสาหกรรมอาหาร และสินค้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้า กลุ่มลูกค้าเน้นกลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหาร/เครื่องดื่ม ผู้ค้าส่ง/ค้าปลีก และ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ผู้ประกอบการเบกอรี่ และซูเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งฝ่ายจัดซื้อจากบริษัทชั้นนำทั่วไป

The 2010 Mid-Atlantic Food, Beverage & Lodging EXPO มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 127 ราย อาทิ Phillips, Acme Paper & Supply Co.,Inc, bme Smarter Solutions, Coastal Sunbelt Produce, Encore Construction, Inc., EFC Ettline Foods, H&S Bakery Inc, Hearn Kirkwood, J.J. McDonnell, Keany Produce Co., HMRA Ocean City Maryland, Performance Food Service และ Restaurant Association Maryland เป็นต้น

จาก 19 มลรัฐต่างๆ ทั้งในแถบตะวันออกและตะวันตก ของสหรัฐอเมริกา อาทิ วอซิงตัน ดี.ซี. เมอรี่แลนด์ เวอร์จิเนีย เพนซิลเวเนีย นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ เทนเนสซี มิชิแกน เดลาแวร์ มินนิโซตา เนวาดา มิสซิสซิปปี อิลลินอยส์ แมสซาชูเซตส์ มิสซูรี แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา จอร์เจีย คอนเนตทิคัต เป็นต้น

Highlights ของงานแสดงสินค้าฯ

1. การสัมนา และให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ในทางปฏิบัติในการจัดการอาหารและสร้างความมั่นใจความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

2. การสาธิตการทำอาหารจากผู้เชื่ยวชาญที่มีชื่อเสียง

3. การแสดงประสิทธิภาพของพาหนะขับเคลื่อนอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับประกอบการร้านอาหารเคลื่อนที่

4. จุดชิมเบียร์สดนานาชนิด สำหรับผู้เข้าร่วมชมงานแสดงฯ

5. ร่วมชิงรางวัล กับการเล่นเกมส์ในแต่ละคูหา


ในส่วนของนวัตกรรม ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าจากมลรัฐเทนเนสซี บริษัท Cheffield มีการนำอลูมิเนียมผสม (Aluminum alloy) และ ทองแดงทุบ (Hammered copper) มาผลิตเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับจัดเลี้ยง งานเลี้ยงสังสรรค์ งานเปิดตัวสินค้า โต๊ะจีน บุฟเฟ่ต์ ตลอดจนงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ แบบ upscale ซึ่งทำจากงานฝีมือ ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีความแตกต่างจากอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ผลิตจากอลูมิเนียมทั่วไป

ความเห็นของสคร.นิวยอร์ก

งานแสดงสินค้าฯ ที่จัดขึ้น ค่อนข้างเล็ก ในภาพรวมผู้เข้าชมงานยังไม่มากนัก มีเพียงไม่กี่คูหาที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชม สินค้าส่วนใหญ่ที่นำมาเสนอเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน ไม่มีความหลากหลาย จุดขายของแต่ละคูหาอยู่ที่ตัวอย่างสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมชมงานแสดงฯ เท่านั้น


สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก

8 ตุลาคม 2553

______________________________________________________________


รายงานเยี่ยมผู้ประกอบการ

1) ผลกระทบการส่งออกไปสหรัฐ จากกรณีค่าเงินบาทแข็ง (ตามข้อมูลข้างล่างค่ะ)
2) ปัญหาว่าไทยจะแข่งขันในตลาดโลกได้ยากไหม ประเด็นอยู่ที่ว่าคู่แข่งของไทยในตลาดโลกคือใคร สำหรับตลาดสหรัฐฯ คู่แข็งของไทยล้วนค่าเงินแข็งขึ้นทั้งนั้น ไม่ได้แข็งเพราะเศรษฐกิจของตัวเอง แต่แข็งเพราะเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯกดดันให้ค่าเงินตัวเองอ่อนอยู่ เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่ยังแก้ไม่ได้หลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องการขาดดุลการค้าต่อเนื่อง และการที่รัฐบาลประกาศนโยาบยจะผลักดันการส่งออกให้เป็นสองเท่าใน 5 ปีข้างหน้า
3) สหรัฐฯกำลังกดดันจีนอย่างหนัก เพื่อให้ Appreciate ค่าเงินหยวน โดยผ่านร่างกฎหมาย China Bill เพื่อเก็บภาษีส่วนต่าง (ที่สหรัฐฯคิด) ระหว่างราคาสินค้าที่ส่งเข้ามาตามค่าเงินหยวนที่สหรัฐคิดว่าควรจะเป็น แต่จีนคงไม่ยอมง่ายๆ โดยเฉพาะตอนนี้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจประเทศหนึ่งของโลกแล้ว แม้แต่ IMF ยังประกาศว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวก็เพราะจีนกับอินเดีย
4) เงินดอลลาร์สหรัฐฯอยู่ในมือจีนมากที่สุดในโลกตอนนี้ ฉะนั้นถ้าจีนจะตอบโต้สหรัฐฯโดยทุ่มดอลล่าร์เข้ามาในตลาด หรือบีบให้สหรัฐฯใช้หนี้ ก็คงจะเดือดร้อนสำหรับสหรัฐฯเช่นกัน
5) ขณะนี้ปัญหาในสหรัฐฯรุมเร้ามากพอสมควร การว่างงานยังไม่ลดลง ปัญหา Sub Prime ยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยสิ้นเชิง ปัญหาการถอนทหารจากอัฟกานิสถาน(ซึ่งเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเรื่องบริษัทค้าอาวุธในสหรัฐฯด้วย) ปัญหาสร้างศัตรูในปากีสถานเพิ่มขึ้น และยังเพิ่มปัญหากับจีนเรื่องค่าเงินหยวนอีก ปีหน้าไม่น่าจะเป็นปีที่ดีนักสำหรับสหรัฐฯ แต่ในขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามอย่างหนักในการให้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีต่อสาธารณชน เพื่อผลการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พย.นี้
สมจินต์ เปล่งขำ
สคร.นิวยอร์ก

ผลกระทบค่าเงินบาทแข็งต่อการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐอเมริกา

การแข็งค่าของเงินบาท จะมีผลกระทบมากน้อยต่อการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐอเมริกามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 3 ประการ

1) การแข็ง/อ่อนค่า ของเงินสกุลคู่แข่งที่ส่งสินค้ามายังสหรัฐอเมริกา

ประเทศคู่แข่งของไทยในอาเซียน มีค่าเงินแข็งค่าขึ้นเฉลี่ย 6% ดังนั้นผลกระทบจากการที่ผู้นำเข้าจะหันไปซื้อสินค้าจากประเทศคู่แข่งในอาเซียนคงจะมีน้อย แต่หากเป็นประเทศที่ค่าเงินไม่แข็งขึ้น อาจจะทำให้ผู้นำเข้าหันไปซื้อสินค้าจากประเทศดังกล่าว

2) โครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐอเมริกา

สินค้าที่สหรัฐฯนำเข้าจากไทยอันดับต้นๆ ได้แก่

สินค้า

มูลค่านำเข้าจากไทย

%การนำเข้าสินค้าจากไทย

มูลค่านำเข้าจากทั่วโลก

%การนำเข้ารวม

คู่แข่ง

1. Automated Data Process

1,607.20

15.40

32,740.09

4.91

จีน 61.76% เม็กซิโก17.24%

มาเลเซีย 4.14%






































No comments: